ช้างป่าเขาางฤาแปดริ้วแตกโขลงข้ามมาไกลถึงปราจีนฯโผล่กลางหมู่บ้านหลายแห่งส่งท้ายสิ้นปี
คาดหนาว – แล้ง แหล่งอาหาร-น้ำ ถิ่นเดิมขาดแคลนหนักจึงต้องบุกม่หากินไกล ต้อนอย่างไรก็ไม่กลับคืนถิ่น
วันนี้ 27ธ.ค.65ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จังหวัดฉะเชิงเทรา (ในพื้นที่ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายในเขตป่ารอยต่อ5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง) ที่ข้ามฝั่ง้ข้ามาหากินในพื้นที่ไกลถึงจ.ปราจีนบุรี โดยตัวดังกล่าวนี้ได้แตกฝูงเข้ามาหากิน ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ก่อนหน้า และทางเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน และชุดผลักดันช้างป่า ต.เขาไม้แก้ว ได้ร่วมกันผลักดันโขลงช้างป่ากลุ่มใหญ่กลับเข้าพื้นที่หากินชั้นใน จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงคอนสว่างที่ผ่านมา
โดยชาวบ้านพบช้างป่าที่แตกโขลงไม่ยอมกลับคืนถิ่น จำนวน 1 ตัว ดังกล่าวนี้ กำลังเดินหากินในหมู่บ้านบ้านโนนฝาว ต.วังตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
นายธเนศ ยังจิต กล่าวว่า ช่วงตีสามที่ผ่านมาวันนี้(27ธ.ค.) ได้รับแจ้งพบเห็นช้างป่า 1 ตัว กำลังเดินหากินกลางหมู่บ้าน เลาะมาบนถนนสายปจ.2006 กม.ที่ 11+500สายหนองสังข์-วังตะเตียน
จากนั้นจึงติดตามไล่ช้างออกจากพื้นที่ และยันทึกคลิปภาพไว้ เกรงว่าชาวบ้านจะได้รับอันตรายไม่แน่ใจว่าช้างตัวที่เห็นเป็นช้างป่าที่เคยทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตมาแล้วใช่หรือไม่
กระทั่งสว่าง ช้างป่าตัวดังกล่าวออกจากพื้นที่และแจ้งให้ คนรู้จักในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับทราบว่ามีช้างป่าเข้ามาหากินในพื้นที่ขอให้ใช้ความระมัดระวัง
ต่อมา เมื่อเวลา12.00น.ที่ผ่านมามีการพบเห็นช้างป่าตัวใหญ่มีงายาวเดินหากินอยู่บริเวณบ้านหนองโดน ต.บ่อทอง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ชาวบ้านได้แจ้งเตือนให้เพื่อนบ้านได้รับทราบและระวังช้างป่าตัวดังกล่าวและเฝ้าติดตามช้างป่าตัวดังกล่าวมุ่งหน้าไปทิศทางใด และแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านรับทราบ
นายประภาส รักศรี กำนันตำบลบ่อทอง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านจึงออกตรวจสอบ และพบช้างป่าตัวใหญ่มีงากำลังเดินหากินอาหารอย่างสบายอารมณ์หูกางโบกพัด หางโบกกวัดแกว่งไป-มา บนถนนทางลูกรังและได้ถ่ายคลิปวีดีโอไว้ เพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ
ขณะที่เดินตามบันทึกภาพช้างป่าพี่กำลังเดินหันหลังให้ไปตามถนนลูกรัง ต่อมาช้างป่าตัวดังกล่าวรู้ว่ามีคนตามเข้ามาในระยะใกล้จึงหันหน้าเข้าใส่ และเดินเข้าหากำนันประภาส รักศรี ด้วยท่าทีขึงขัง
กำนันจึงถอยออกห่างเพื่อความปลอดภัย
ล่าสุดขณะนี้ช้างป่าตัวดังกล่าวได้ข้ามถนนสาย 33สุวรรณศร(กบินทร์บุรี-สระแก้ว) ไปยังต.บ้านนาคาดว่าช้างป่าตัวดังกล่าวจะมุ่งหน้าไปยังหลังวัดหนองโดนซึ่งมีป่าอ้อยและป่าไร่ ที่เป็นแหล่งอาหารใหม่อุดมสมบูรณ์กว่า
แต่ก็มีชาวบ้านตั้งข้อสงสัยด้วยอารมณ์ดีว่าช้างป่าคงมาไหว้สิ่งศักดิ์ตลอดรายทางที่ผ่านอาทิ ไหว้ขอพรหลวงพ่อทันใจวัดโนนฝาว ไหว้ศาลเจ้าพ่อพระปรงใกล้บ้านหนองโดนส่งท้ายปีเก่า65รับปีใหม่66
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม
ปัญหาช้างป่าออกนอกผืนป่าของ จ.ปราจีนบุรี ที่มีประกอบด้วยพื้นที่หลักๆได้แก่ อ.นาดี แถบ ต.ทุ่งโพธิ์,ต.วัแก่งดินสอ เป็นช้างป่าจากอุทย่นแห่งชาติทับลานมรดกโลก
พื้นที่ อ.กบินทร์บุรี ต.วังท่าช้าง ,ต.เขาไม้แก้ว พื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ เป็นช้างป่าออกนอกพื้นที่ข้ามจังหวัดมาจากผืนป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จังหวัดฉะเชิงเทรา (ในพื้นที่ลุ่มต่ำผืนสุดท้ายในป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จังหวัดฉะเชิงเทรา,จังหวัดสระแก้ว,จังหวัดชลบุรี,จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดระยอง)
ซึ่งปัญหาช้างป่า โดยเฉพาะช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนนั้น มีมาเนิ่นนานนับ 30 ปี ที่ผ่านมา
ระยะแรกมีเพียงแค่ในพื้นที่ ที่ช้างป่าออกจากพื้นที่มานอกเขตอำเภอสนามสนามชัยเขต,อำเภอท่าตะเกียบ
จนต้องมีการสร้างคู-รั้วกั้นช้างป่า แต่ไม่สามารถยับยั้งได้ เนื่องจากสาเหตุหลักๆคือ จำนวนประชากรของช้างป่าที่เพิ่มทวีสูงมากขึ้น แต่แหล่งอาหาร ที่อยู่ แหล่งน้ำ มีจำกัด
มีการแก้ไข ปิด-เปิด เส้นทางผ่านผืนป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน หลังจากมีปัญหาช้างป่าถูกรถชน สัตว์ป่าดักปล้นรถขนอ้อย-มันสําปะหลัง-สับปะรด ช้างทำร้ายคน
แต่ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา ช้างป่า พากันออกนอกพื้นที่มากขึ้นและกระจายโดยรอบผืนป่าทั้ง 5 จังหวัด และพากันมาแบบทั้งยกโขลงเป็นร้อยตัว,มาเดี่ยว และมีแนวโน้มกลายเป็นสัตว์ประจำถิ่น มาแล้วไม่กลับคืนที่เดิมเนื่องจากในพื้นที่หากินใหม่มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งสวนผลไม้, ไร่มันสําปะหลัง, ไร่อ้อย, ไร่ข้าวโพด, นาข้าว, ป่ากล้วย ตลอดจนแหล่งน้ำ
โดยสภาพปัญหา ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี พื้นที่มักยกโขลงมากันสม่ำเสมอได้แก่ ตำบลวังท่าช้าง, ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอศรีมหาโพธิ โดยจะพากันข้ามฝั่งจากถนนสายสระแก้วตัดใหม่ (สระแก้ว-พนมสารคาม) หรือสาย 359 ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกัน
โดยมีผลขัดแย้งกับชาวบ้านในพื้นที่ อาทิ ช้างป่าถูกรถชนบาดเจ็บ-ตาย ขณะข้ามถนน,ช้างบุกรุกพืชสวนไร่นาพื้นที่การเกษตร,การพังบ้านเรือน,การทำร้ายประชาชน-เจ้าหน้าที่รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต,ช้างถูกไฟช็อตตาย เป็นต้น
