หนุ่มใหญ่ควบบิ๊กไบค์ฝ่ารถติดชนรถคู่กรณี5คันรวดก่อนเสียหลักชนราวกั้นสะพานพระปกเกล้าดับสลด
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 25 ธ.ค. ร.ต.ท.นันท์ทัพพ์ แก่นจันทร์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ปากคลองสาน รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนมีผู้เสียชีวิต บนสะพานพระปกเกล้า(ฝั่งมุ่งหน้าเขตพระนคร) แขวงวังบูรพา เขตพระนคร กรุงเทพ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชและอาสามูลนิธิปอเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุอยู่ช่วงกึ่งกลางบนสะพาน แบ่งเป็นถนน 4 เลน บริเวณเลนขวาสุด พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฟอร์ซ่า 350 ซีซี สีดำ เลขทะเบียน 3 ขพ 4851 กรุงเทพมหานคร สภาพล้มคว่ำ ชุดสีแตกยับเยินทั้งคันท่อไอเสีย,เบาะนั่ง,ไฟหน้ากระเด็นหลุดออกจากตัวรถ ใกล้กันพบศพเจ้าของรถคือ นายอนุชา ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา อายุ 49 ปี สภาพนอนหงายสวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีรุ้ง มีบาดแผลเปิดระหว่าง นิ้วชี้ กับ นิ้วกลาง ข้างซ้ายฉีกขาดจนเห็นกระดูก และมีบาดแผลถลอกบริเวณตามร่างกายหลายแห่ง บนพื้นถนนมีรอยขูดเป็นทางยาว นอกจากนี้ยังพบรถเก๋งคู่กรณีรวม 5 คัน เป็นรถแท็กซี่ ยี่ห้อ โตโยต้า อัลติส สีชมพู ทะเบียน หห 7443 กรุงเทพมหานคร1 คัน, รถเก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน ฌผ 6449 กรุงเทพมหานคร 1คัน มีรอยถูกเฉี่ยวชนด้านท้ายบังโคลนหลุด , รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลัก วีโก้ สีบอร์นเทา ทะเบียน บจ 227 สมุทรสงคราม มีร่องรอยถูกชนท้าย กรอบป้ายทะเบียนหลุด , รถยนต์แท็กซี่ยี่ห้อ โตโยต้า อัลติส สีเขียว- เหลือง ทะเบียน 1 มก 8911 กรุงเทพมหานคร มีร่องรอยถูกชนด้านซ้ายของตัวรถเสียหาย และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเทา ทะเบียน ชพ 4310 กรุงเทพมหานครมีรอยถูกชนท้าย ด้านฝากระโปรงหลังฝั่งขวาและไฟท้ายแตกเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจึงต้องเร่งระบายการจราจรและเคลียร์รถคู่กรณีออกจากจุดเกิดเหตุโดยด่วน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ารถจักรยานยนต์ผู้ตาย วิ่งออกมาจากไฟแดงสีแยกบ้านแขกฝั่งธนบุรี เพื่อจะมุ่งหน้าขึ้นสะพานพระปกเกล้า ซึ่งเป็นช่วงที่มีการจราจรติดขัดเป็นจำนวนมาก ประกอบกับผู้ตายขับขี่รถมาด้วยความเร็ว เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ผู้ตายพยายามจะหักหลบรถแท็กซี่ แต่ไม่พ้นทำให้รถจยย.ผู้ตาย เสียหลักชนท้ายรถแท็กซี่ ก่อนที่จะเสียหลักไปชนคันอื่นอีก 4 คัน กระทั่งผู้ตายพุ่งชนเข้ากับขอบทางกั้นราวสะพาน ส่งผลให้รถจักรยานยนต์ก็ทับร่างจนเสียชีวิต จึงเป็นเหตุให้ ร่างผู้ตายกระดูกซี่โครงหัก
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด และจะนำร่างผู้ตายส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลศิริราชก่อนจะประสานให้ญาติ เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยกับรถคู่กรณีและนำร่างผู้ตายไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
