ป.ป.ส ไทยเผยแผนความร่วมมือระหว่างประเทศเมียนมา สกัดยา happy water 113 กิโลกรัม ก่อนลักลอบเข้าไทย
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยถึงการตรวจยึดยาเสพติด ภายในบ้านที่เขตสันทราย เมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา โดย สำนักงานคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติดประเทศเมียนมา (CCDAC) ได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านของผู้ต้องหา และตรวจยึดยาเสพติดได้จำนวนมาก ในขณะที่ผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของยาเสพติดได้หลบหนีการจับกุม
“การตรวจยึดดังกล่าวมีขึ้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เจ้าหน้าที่ CCDAC ตรวจยึด Happy Water 113 กิโลกรัม ยาอีริมิน-5 จำนวน 35,000 เม็ด ยาอี 616,000 เม็ด รูปทรงกลม แม่พิมพ์อัดเม็ดประทับตราเลข 5 จำนวน 20 อัน แม่พิมพ์เม็ดพร้อมประทับตรา 028 จำนวน 20 อัน
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ผู้ต้องหารายดังกล่าว เป็นหญิงชาวเมียนมา ที่มีความเกี่ยวข้องกับการนำยาเสพติดเข้าประเทศไทย โดยพบการเดินทางเข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง จากข้อมูลและร่องรอยการโอนเงินต่างๆ สำนักงาน ป.ป.ส. จะสืบสวนทรัพย์สินของผู้ต้องหารายนี้ที่เชื่อว่ามีซุกซ่อนอยู่ในประเทศไทยจำนวนมาก รวมถึงขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องในประเทศไทย และทางด้าน ป.ป.ส. เมียนมา จะขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องในเมียนมา โดยจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลขบวนการค้ายาเสพติดระหว่าง ป.ป.ส. ไทย และ ป.ป.ส. เมียนมา เชื่อว่าจะขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องในเครือข่ายยาเสพติดนี้ได้จำนวนมาก
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเสริมว่า ยาอี Happy Water ยาอีริมิน-5 (เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในกลุ่มยากล่อมประสาท เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2) ที่ตรวจยึดได้จากข้อมูลการสืบสวนคาดว่าจะเตรียมส่งเข้าประเทศไทย โดยทั้ง 3 ชนิดเป็นยาเสพติดที่นิยมใช้ในหมู่นักท่องเที่ยวกลางคืน (Club Drugs) โดยจากข้อมูล ทั้ง 3 ชนิดส่วนใหญ่มีแหล่งผลิตในยูโรป อย่างไรก็ตาม จากการตรวจยึดมีหัวตอกที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจผลิตเอง หรือมีความเกี่ยวข้องกับการผลิต สำหรับการตรวจยึด happy Water ครั้งนี้น่าจะมากที่สุด เท่าที่เคยตรวจยึดมา เป็นรูปแบบหนึ่งของการค้ายาเสพติดที่พบบ่อยขึ้น โดยผลจากการตรวจพิสูจน์ของกลาง ที่ผ่านมา พบว่า Happy Water เป็นการผสมของสารเสพติด ที่นิยมใช้ในหมู่นักท่องเที่ยวกลางคืน เช่น ยาอี คีตามีน ฯ
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวในตอนท้ายว่า สำนักงาน ป.ป.ส. จะร่วมมือกับ ป.ป.ส. เมียนมา ในการขยายผลผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการ โดยมีหนังสือขอความร่วมมือจาก พลตำรวจจัตวา วิน หน่าย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเลขาธิการร่วม CCDAC เมียนมา ในการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายพร้อมขอให้ดำเนินการสืบสวนหาทรัพย์สินของ
ผู้ต้องหา ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี เชื่อว่ามีทรัพย์สินจำนวนมากอยู่ที่ประเทศไทย อาทิ เช่น บัญชีเงินฝากธนาคาร ทรัพย์สินอื่นฯ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นการสืบสวนร่อยทางการเงิน การยึดทรัพย์ ซึ่งหากประเทศในภูมิภาค เริ่มมีการใช้แนวทางเดียวกับประเทศไทย จะส่งผลดีต่อการสืบสวนขยายผล สามารถทำลายเครือข่ายยาเสพติดข้ามประเทศ ทำให้หลักฐานทางการเงินของเครือข่ายเหล่านี้เชื่อมโยง มีประสิทธิภาพ และเป็นทิศทางเดียวกัน
