เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้27 พ.ย.65 ร.ต.อ.(หญิง)ภัทรพร ดานุวงศ์ รองสารวัตรเวร(สอบสวน )สภ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี รับแจ้งว่าพบโครงกระดูกอยู่ในป่าหลังชุมชนคลองแฟบเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุเป็นป่ารกร้างต้องเดินทางเข้าไป 200 เมตร พบชิ้นส่วนมนุษย์หัวกะโหลกและกระดูกอยู่บนพื้นดิน ซึ่งมีดอกไม้และ ธนบัตรใบละ 20 บาท จำนวน 2 ใบ เพื่อขอขมาศพ โดยมีชาวบ้านมุงดูและวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา บริเวณจุดที่พบโครงกระดูกปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์
ป้าขวัญ ประชุมคุณ อายุ 62 ปี ผู้พบเห็นกล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองกับน้องสาวคือนางบัวไข ศรียงยศ อายุ 55 ปี พากันออกมาหาขุดหาหัวมันนกในป่า เมื่อมาถึงจุดพบโครงกระดูกตอนแรกยังไม่เห็น มัวแต่ใช้มีดถางเครือเถาวัลย์ น้องสาวบอกว่า “นี่ๆ” ตนเองยังก็ยังใช้มีดถางเถาวัลย์เป็นช่องทางเดิน แต่น้องสาวก็พูดออกมาอีก เสียงรัว ๆ ว่า “นี่ๆ” และ บอกน้องสาวว่า “เห็นก็ขุดสิ” น้องสาวเอามือสะกิดให้หันมาดู จึงหันไปหาน้องสาว น้องสาวบอกว่า “นี่ๆหัวกะโหลกคนตาย” จึงรู้ว่าเป็นหัวกะโหลกและโครงกระดูกมนุษย์ เมื่อตั้งสติได้จึงรีบพาน้องสาวออกจากป่าและกลับไปบ้าน ตอนแรกว่าจะไม่บอกใครและบอกญาติให้รู้ว่าพบหัวกะโหลกคนอยู่ในป่า
ด้าน ป้าบัวไข ศรียงยศ กล่าวว่า มาหาขุดหัวมันนก ที่ขึ้นในธรรมชาติกับพี่สาวขณะนั้นเห็นหัวกะโหลกและกระดูกส่วนขา จึงร้องบอกพี่สาวให้หันมาดู เห็นตอนแรกรู้สึกตกใจและกลัว ไม่คิดว่าจะมาเจอหัวกะโหลกคนตายอยู่ในป่า
ขณะที่ นายมนตรี ศรียงยศ สามีป้าขวัญกล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาไปเยี่ยมญาติที่โรงพยาบาลกับลูกสาว และเพื่อนของลูกสาวไปด้วยหนึ่งคน กลับมาที่พักแล้ว วิญญาณเข้าสิงเพื่อนของลูกสาว พูดเป็นตุเป็นตะ บอกว่าอยากให้มีคนเอาเขาออกไปจากที่นี่ และอยากได้ชุดสวยๆและไม่ต้องบอกใคร ญาติพี่น้องก็ไม่สนใจเขา ไม่ต้องรู้ ว่าเขาเป็นใครขอให้ทำตามที่บอก
หลังจากที่เล่าสู่กันฟังแล้ว พากันออกมาดูอีกครั้งหนึ่ง เพื่อขอขมา และกลัวมีความผิด จึงโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ
ส่วน ภายในหมู่บ้านที่ผ่านมานั้น ไม่มีการแจ้งคนสูญหายแต่อย่างใด และไม่ทราบว่า โครงกระดูกที่พบเห็นนั้นเป็นใคร พนักงานสอบสวนได้ประสานไปยัง พฐ.และหน่วยกู้ภัยฯ ให้เข้ามาตรวจสอบ จะเก็บชิ้นส่วนโครงกระดูกที่พบไว้ติดต่อหาญาติต่อไป
