ร้อง ปคม. น้องชายถูกหลอกไปทำงานและขังไว้ที่กัมพูชา
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 9 พฤษภาคม ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง น.ส.สุดา กาญจนกำยาน อายุ 34 ปี แม่ค้าเสื้อผ้ามือสอง พร้อมด้วย กลุ่มผู้เสียหาย 5 ราย เดินทางเข้าพบ
พ.ต.ท.สืบพงษ์ กรุณา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.3.บก.ปคม. เพื่อขอให้ช่วยเหลือ นายธไนพล กาญจนกำยาน น้องชาย และเพื่อนอีก 4 คน ซึ่งถูกหลอกไปทำงานคอมพิวเตอร์ ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งถูกบังคับให้ทำเว็บพนันออนไลน์คอลเซ็นเตอร์ และหลอกลงทุน โดยถูกกักขังให้อดข้าว อดน้ำ
น.ส.สุดา กล่าวว่า น้องชายของตน ถูกเพื่อนชื่อนายบอล หลอกให้ไปทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่ประเทศกัมพูชา โดยอ้างว่าให้เงินเดือน 2-30,000 บาท น้องชายซึ่งยังไม่ประกอบอาชีพอะไรจึงตกลงไปพร้อมผู้อื่นอีก รวมจำนวน 5 คน โดยเดินทางไปตั้งแต่เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่เมื่อไปถึง กลับเป็นการทำงานเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์และการ หลอกลงทุน โดยทำงานตั้งแต่เวลา 8.00 น. – 21.00 น. ซึ่งต้องทำยอดให้ได้จำนวน 300,000 บาทต่อเดือน รวมถึงถูกให้เซ็นสัญญาจ้างงานย้อนหลังเป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2564 ถึง 9 เมษายน 2565 ซึ่งปัจจุบันหมดอายุสัญญาจ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถกลับประเทศไทยได้ ถูกกักขังไว้ที่โรงแรมกาแล็กซี่ 2 ภายในสีหนุวิวล์ หากหลบหนีจะถูกทุบตีด้วยไม้กระบองและทำร้ายร่างกาย อีกทั้งยังถูกข่มขู่ว่าจะนำไปขายต่อ โดยน้องชายได้แอบติดต่อมาหาตนเมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อขอให้ช่วยเหลือ นอกจากน้องชายของตน ยังมีเหยื่ออีกประมาณ 30 กว่าคน ที่ถูกกักขังไว้ รวมทั้งไม่ได้รับเงินเดือนตามกล่าวอ้าง บางคนถูกกักขังนานนับปี นอกจากนี้ ยังถูกทำร้ายร่างกายใน 3 เดือนแรก และให้กินอาหารเพียง 1 มื้อต่อวันเท่านั้น ซึ่งตนไม่รู้จะช่วยเหลือน้องอย่างไร จึงไปร้องทุกข์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว แต่ยังไม่มีการติดต่อกลับมา
น.ส.สุดา กล่าวอีกว่า ส่วนนายบอล ปัจจุบันได้กลับมายังประเทศไทยแล้วและใช้ชีวิตอู้ฟู่ ใส่ทอง มีการโชว์ยอดเงินในบัญชี ซึ่งตนได้คุยกับนายบอลแล้ว นายบอลยังยืนยันว่าน้องชายอยู่สบาย มีเงินเดือนเป็นแสน ซึ่งแตกต่างจากที่น้องของตนบอกมา ตนยืนยันว่าน้องของตนไม่ได้ตั้งใจไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และตัวน้องชายไม่เคยไปที่กัมพูชามาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกโดยนายบอลเป็นผู้จัดการให้ ซึ่งตนก็ได้เตือนน้องไปแล้ว แต่น้องก็เชื่อใจนายบอล จึงอยากให้ตำรวจช่วยดำเนินการอย่างเร่งด่วน
//////