สันธนะโต้ชูวิทย์พร้อมแจงประเด็นวานนี้ (สน.ทองหล่อ)
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 พ.ย. ที่ โรงแรมเซ็นเตอร์พ้อยท์ เพลินจิต นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ให้สัมภาษณ์สื่อฯ ตอบโต้นายชูวิทย์ โดยกล่าวว่า เมื่อวานเดิมทีตนเองตั้งใจจะแจ้งความเอาผิด นายชูวิทย์ที่ สน.ลุมพินี แต่ตนมารู้ว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ บิ๊กโจ๊ก และนายชูวิทย์มีการนัดหมานจะนำข้อมูลเรื่องนายทุนจีนไปมอบให้กัน ประกอบกับตนเองถูกพลาดพิงจึงตัดสินใจเดินทางไปที่ สน.ทองหล่อ แต่พอไปถึงก็ไม่สามารถเข้าไปในห้องได้ ตนเองก็ยินดีที่จะยืนรอหน้าห้อง และตลอดระยะเวลาที่ยืนอยู่หน้าห้องตนได้ดูไลฟ์สดจากสื่อมวลชน และได้ยินว่านายชูวิทย์พูดพาดพิงถึงตนเอง จึงมีการเคาะประตู เพื่อขอเข้าไปด้านในเพื่อจะชี้แจงสิ่งที่ถูกพาดพิง แต่ประตูล็อก และตนเป็นคนพูดเสียงดัง ภาพที่ออกมาจึงดูไม่เหมาะสม แต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่ให้เกียรติ รองผบ.ตร.หรือยั่วยุนายชูวิทย์แต่อย่างใด
ในเหตุการณ์ที่นายชูวิทย์จะเข้ามาทำร้ายตนเองนั้น และมีการท้าทายให้ลงไปสู้กันที่ลานกว้างๆ แต่ตนไม่ลงไปตามคำท้า เพราะมันเป็นยุทธวิธีที่เรียนมาสมัยเป็นตำรวจ จึงเลือกที่อยู่เฉยๆเพราะไม่อยากมีเรื่อง แต่ถ้าหากนายชูวิทย์เข้ามาในรัศมีประชิดตนก็คงใช่เท้าถีบทันที ส่วนเรื่องที่มีโปรโมเตอร์มวยจะจัดไฟว์ให้ ตนมองว่ามันไม่มีใครได้ใครเสีย
ส่วนนายชูวิทย์บอกว่า ถ้านายสันธนะยืนบนเวที พร้อมกับตนเองได้เกิน1นาที นายชูวิทย์จะกราบเท้านั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องตลก เพราะถ้าลั่นระฆังและนายชูวิทย์กระโดดทีบ ตนเองก็เสียเปรียบ ฝากไปบอกนายชูวิทย์ว่าให้ดูแลตัวเองให้ดีๆ และติดตามตนเองไปทุกที่ตามที่นายชูวิทย์ได้ลั่นวาจาไว้กับสื่อ
และที่นายชูวิทย์อ้างว่าไม่รู้จักตนนั้น คงต้องไปถามนายชูวิทย์ ว่า ให้กินยาเตือนความจำ ตนยืนยันว่ามีพยานบุคคลที่บอกได้ว่าเมื่อก่อนนายชูวิทย์ยังมาหาข้อมูลเรื่องบ่อนกับตนเองอยู่เลย ตอนนี้ยังมานั่งคิดว่าเหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำ ส่วนประเด็นที่นายชูวิทย์ตั้งเงินรางวัล1 แสน ให้กับคนที่ส่งเบาะแสการกระทำความผิดของตนเองนั้น ในทางกลับกันตนจะให้เงินกับบุคคลที่แจ้งเบาะแสนั้นด้วย1ล้านบาท แต่ต้องเป็นคดีในกฎหมายหลักเช่นคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การฟอกเงินไม่นับคดีจราจรยิบย่อย
ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยและอดีต ผบ.ตร. ที่ออกมาพูดด่าบุคคล คนหนึ่งและใช้คำว่า “ไอ้สันขวาน”นั้น อยากให้อดีต ผบ.ตร.ชี้ชัดในคำพูดว่าไอ้สันขวานที่เอ๋ยถึงคือใคร ถ้าเป็นตนเองก็พูดออกมาเลย ตนจะได้ดำเนินคดี แต่ถ้าท่านหมายถึงตนเอง แต่ไม่ยอมพูดออกมาแบบลูกผู้ชาย ก็ให้สังคมตัดสินว่าท่านเป็นคนอย่างไร
โดยขณะนี้ตนดำเนินคดีกับนายชูวิทย์อย่างน้อย 4 คดี ประกอบด้วยคดี หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากการออกรายการต่างๆ ซึ่งต่างกรรมต่างวาระ และคดีเกี่ยวกับผับในโรงแรมDavis










