พ่อค้าแม่ค้าสุดทน ก่อสร้างขยายถนนขุด เจาะ เป็นหลุมลึกหน้าร้านปล่อยทิ้งนานหลายเดือน
เมื่อวันที่ 29 ก.ย.65 ทนาย เกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา ลงพื้นที่บริเวณร้าน “นนท์สรวงผัดไทยห่อไข่”ถนนชัยพฤกษ์ ตำบลคลองพระอุดม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากนางมัณฑณา อรัญญิก อายุ 48 ปี เจ้าของร้าน “นนท์สรวงผัดไทยห่อไข่”และ พ่อค้าแม่ค้า ที่เปิดร้านขายของอยู่บริเวณ ริมถนนชัยพฤกษ์ หลังจากกรมทางหลวงชนบท ได้มีการก่อสร้างขยายถนน มีการขุด เจาะ ย้ายเสาไฟฟ้า บริเวณหน้าร้านตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 และทิ้งร้างหลายเดือนไม่มาทำต่อเนื่องให้เสร็จ ขุดเจาะทิ้งไว้แล้วไปทำตรงอื่นต่อไม่ทำให้เสร็จเป็นจุดๆ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สัญจรไปมาและพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้านขายอาหาร อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เร่งช่วยเหลือปรับสภาพพื้นผิวถนนให้เป็นปกติโดยเร็วและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่
นางมัณฑณา (เสื้อดำ) เจ้าของร้าน “นนท์สรวงผัดไทยห่อไข่” กล่าวว่า ตอนนี้ยอดขายร้านตนหายไป ขายไม่ได้เลย ถ้าลากยาวงานก่อสร้างไปมากกว่านี้ร้านตนเจ๊งแน่ๆ ลูกค้าก็ไม่ได้รับความสะดวกสบายของที่จอดรถ มีการปิดกั้นทางด้วยแบริเออร์ทำให้ลูกค้าคิดว่าตนปิดร้าน ลูกค้าก็หาย มันผ่านมาหลายเดือนจนตนทนไม่ไหวแล้ว ตรงหน้าร้านตนเริ่มทำตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ตนเปิดร้านมา 15 ปี ยอดขายตอนนี้แค่เลี้ยงลูกน้องได้ก็ดีใจแล้ว ลูกน้องตนต้องสลับกันหยุดเพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่ายค่าจ้าง ตนอยู่ได้เขาอยู่ได้ เรื่องของค่าใช้จ่าย ต้นทุนวัตถุดิบ ทุกอย่างมันขึ้นราคาหมดแล้ว แต่การก่อสร้างมันไม่มีขอบเขตระยะเวลาที่สิ้นสุดให้ตน มาแช่ทิ้งไว้แบบนี้ตั้งหลายเดือน มันเดือดร้อนจริงๆไม่งั้นตนไม่มาร้องสื่อ ต้นอยากรู้ระยะเวลาเสร็จสิ้นที่แน่นอน เข้าใจว่าโปรเจ็คใหญ่ๆต้องใช้เวลา แต่ตอนนี้เมื่อไหร่จะอำนวยความสะดวกให้ดีกว่านี้ หรือเสร็จซักที ขยับงานให้ตนเปิดร้านและลูกค้าจอดรถให้บ้าง ไม่ใช่มาปิดแบบนี้ ก่อนทำเขาก็ไม่ได้มาบอกมาแจ้งอะไร ตนเปิดแค่ร้านเล็กๆ ตนก็เข้าใจแต่อยากให้มาบอกกันบ้าง จุดนี้ยังไม่เสร็จเลยขยับไปทำข้างหน้าแล้ว หน้าร้านนี่ไม่ได้ทำเลยขุดทิ้งสภาพนี้ไว้นานแล้ว ตนขายของกิน ทั้งฝุ่น เศษหินทุกอย่าง ทางเข้าออก ตนช่วยเหลือตัวเองมาพักนึงแล้วตอนนี้ไม่ไหวแล้วสายป่านไม่ยาวขนาดนั้น บางร้านย้ายหนีไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเอาตัวรอด บางร้านก็ปิดร้านไป 2 เดือน เพื่อให้เขาทำถนนแต่ระยะเวลาที่ปิดร้านไปเขาก็ไม่ได้ทำอะไรให้คืบหน้าไปกว่าเดิม แต่ละร้านมีค่าเช่าและค่าแรงลูกน้อง มีต้นทุนวัตถุดิบหลายอย่าง ตนเป็นผู้ประกอบการทุกสิ้นเดือนตนมีค่าใช้จ่าย แต่นี่คืออะไรนี่คือภาษีของเราหรือเปล่า
นายทัศวัฏ อิ่มศิลป์ อายุ 32 ปี (เสื้อสีเทา)เจ้าของร้านบะหมี่เกี๋ยว กล่าวว่า ตนได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง เพราะผู้ที่ปฏิบัติงานไม่ทำงานให้เรียบร้อย การขุดท่อเขาแจ้งว่าทางร้านตนคือจุดแรก ตนหยุดร้านไปประมาณ 10 วันเพื่อให้เขาขุดท่อ เพราะของที่ผลิตแล้วไม่สามารถเก็บได้ เลยต้องหยุดขาย แต่ท่อที่เขาขุดไว้ก็ปล่อยอยู่อย่างนั้น ไม่เอาท่อมาลงเป็นเดือนกว่าจะลงท่อ หลังจาก 10 วันที่ปิดร้าน ตนได้ขยับรถเข็นไปขายทางข้างหน้า ซึ่งกว่าเขาจะเอาท่อมาลงแบบนี้ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ซึ่งมันนานเกินไป ตนพยายามปิดร้านเพื่อให้เขาทำงานสะดวกแต่เหมือนเขาปล่อยงานไปเรื่อยๆ ตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ตอนนั้นเขาให้เหตุผลว่ารอการไฟฟ้าย้ายสายไฟร่นไปประมาณ 1 เมตร และตรงข้างหน้านั้นมีสายไฟหักคาไว้การไฟฟ้าไม่สามารถนำตอสายไฟออกได้ หลังจากนั้นเขาก็ปล่อยเวลาไปอีก 3-4 เดือน ทรายที่ถมก็ลงไปอยู่ในท่อหมดเลย เพิ่งมาแก้ไขเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้ยอดขายร้านตนเหลือแค่ 1 ใน 4 และแบกรับค่าใช้จ่ายทุกอย่าง โควิดยังไม่น่ากลัวเท่าทำทางเลย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาปรับปรุงสภาพพื้นให้เรียบเป็นปกติ ตนอยากให้เขาทำให้เสร็จแต่ก็เข้าใจว่ามันคืองานก่อสร้างต้องใช้เวลา แต่อยากให้ทำให้เรียบร้อยไม่ทิ้งหรือไม่ทำงานชุ่ย ตอนนี้ก็ต้องทนไม่งั้นธุรกิจก็ล้ม ตนมีภาระครอบครัว ลูกจ้าง ก็อดทน ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องเลิก แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลและแก้ไขให้โดยเร็ว
นายณัฐ ธนะภูมิ อายุ 38 ปี (เสื้อสีเขียว) ผู้ถือหุ้นบริษัทเบเกอรี่ DePot กล่าวว่าตนได้รับผลกระทบตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 64 ระยะเวลาในการก่อสร้างตามกำหนดคือ 18 เดือน ตามที่ประกาศไว้ ตอนนี้ผ่านมาครึ่งทางแล้วดูจากสภาพหน้างานที่เกิดขึ้นแล้วไม่ถึง 50% อุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยและไม่มีสัญญาณไฟเตือน รถบรรทุกตกประมาณ 4 ครั้ง ไม่นับอุบัติเหตุย่อยๆอีก อันตรายมาก ระยะเวลาในการดำเนินการไม่แน่นอน เกิดผลกระทบอย่างมาก เคยมีการสอบถามไปกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน บริเวณข้างทางก็มีอุปกรณ์ก่อสร้างมากองทิ้งไว้บริเวณหน้าร้าน ยอดขายปีนี้ทั้งปีตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้วยอดขายตกกว่า 2 ล้าน เรื่องก่อสร้างตนทำใจได้แต่อยากได้ระยะเวลาในการทำที่แน่นอนว่าจะทำถึงตรงไหน อยากเขาะตรงไหนก็ทำ จะเลื่อนอะไรก็เลื่อน ร้านของตนอยู่ใต้สะพานเขาอยากจะปิดถนนก็ปิดไม่เคยบอก เดือดร้อนกันหลายร้าน อันตรายมาก รถบรรทุกวิ่งไม่ได้ทางมันแคบ แต่ไม่เคยมีป้ายบอกเลยว่ารถบรรทุกห้ามกลับรถ เลยตกถนนค่อนข้างเยอะ ต้นอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูแลและระบุเวลาให้ชัดเจน ทางกลับรถควรมีป้ายบอกระยะของความสูงก็ดี เช่น คุมความสูง 2.8 เมตร รถบรรทุกก็เข้าไม่ได้ อุบัติเหตุก็จะไม่เกิด
ป้าหน่อย ลูกค้า (ป้าบริโอในตำนาน) กล่าว ว่าวันนี้ตนมาจอดรถซื้อก๋วยเตี๋ยวบะหมี่เกี๋ยว ตอนแรกตนว่าจะไม่ซื้อเพราะจอดรถลำบาก ถนนสร้างไม่เสร็จซักที นานเกือบปีแล้ว วันนี้ไม่มีที่จอดด้านใน ต้องจอดรถด้านนอกตนมาซื้อก๋วยเตี๋ยว กลับบ้านไม่นั่งทานเพราะมันเฉอะแฉะ สงสารพ่อค้าแม่ค้า รายได้ต้องน้อยลงแน่นอน เพราะร้านค้าอื่นก็มีให้เลือกเยอะ ตรงนี้หาที่จอดรถลำบาก ลูกค้าส่วนมากมีรถเพราะเส้นนี้ไม่ค่อยมีรถประจำทาง ตนก็ขับมาเส้นปากเกร็ดบ่อยครั้ง มาแวะซื้อของกิน
ทนายโป้ง กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากประชาชน พ่อค้าแม่ขาย เจ้าของกิจการที่ทำธุรกิจอยู่ตรงนี้ พบว่ามีความเดือดร้อนจากทางหลวงชนบทในการขยายพื้นผิวจราจร ไม่ได้มีการแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบ และสภาพทิ้งร้างมาเป็นเดือนแล้ว ไม่มีคนงานมาทำอะไรเลย ข้อกฎหมายเป็นไปตามพระราชบัญญัติทางหลวง กรณีนี้เป็นลักษณะ การซ่อมสร้างทางซึ่งทางหลวงต้องปิดป้ายประกาศ ไม่ใช่ไปปิดป้ายอยู่แค่ต้นทาง แต่ต้องมีระยะ 2 ก.ม. 5 ก.ม. ว่าก่อสร้างโดยใคร และใครเป็นเจ้าของโครงการ ใครเป็นบริษัทรับเหมา ฯลฯ ต้องมีรายละเอียดและเบอร์โทรศัพท์ให้ติดต่อได้ มีกำหนดวันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดชัดเจน นี่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย หน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบอีกหน่วยงานคือการปกครองส่วนท้องถิ่น คืออบต.คลองพระอุดม มันเป็นเรื่องการถ่ายโอนถึงแม้ว่าอบต.จะไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ต้องมีมาตรฐานในเรื่องการรับผิดชอบผิวทางจราจร กรณีเกิดการสร้างทางและสร้างความลำบากกับประชาชน อบต.ต้องดูแลและจัดสรรทางจราจรเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบในการสัญจร 2 หน่วยงานที่ต้องมาดูแลคือ 1.ทางหลวงชนบท 2.อบต.คลองพระอุดม ถ้าเสร็จจากเส้นทางนี้ขยับไปอีกนิดข้างหน้าก็เป็นของเทศบาลบางพลับ ตอนนี้ไม่ใช่แค่ประชาชนในเขตคลองพระอุดมแล้ว มันยาวไปถึงเขตบางพลับ ไปถึงอ้อมเกร็ด ท่าอิฐ หรือคลองข่อย เพราะเส้นนี้ผ่านอีกหลายตำบล ประชาชนที่อยู่เขตบางพลับเตรียมรับมือได้เลย สภาพแบบนี้จะลากยาวไปอีก ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรีบมาดูแลช่วยเหลือเยียวยาแล้ว พ่อค้าแม่ค้า เจ้าของกิจการเขาค้าขายกันไม่ได้เลย ตนผ่านเส้นนี้ประจำ และเห็นสภาพนี้มาข้ามปีแล้ว กว่า 10 เดือนแล้วไม่มีความคืบหน้าเลย มาแก้ไขเยียวยากันดีกว่า มันมีกฎหมายอยู่แล้วอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาดูแล