เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 22 ก.ย.65 ที่ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. เป็นประธานในการแถลงผลการปฏิบัติ 2 คดี
2.)ปฏิบัติการรวบแก๊งอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ส่ง SMS ลวงเหยื่อนับพันราย มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
สอบสวนกลาง โดย บก.ป. กองปราบรวบแก๊งอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร
ส่ง SMS ลวงเหยื่อนับพันราย ความเสียหายกว่า ๑๐ ล้านบาท
กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป, พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.๒, พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว,
พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนง, พ.ต.ท.ธนศักดิ์ สว่างศรี, พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ รอง ผกก.1 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.1 บก.ป. นำโดย พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.กก.1 บก.ป.,
ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา
1.นายกุณฑล (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1583/2565
ลงวันที่ 8 ส.ค. 65
2.นายสาโรจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1584/2565
ลงวันที่ 8 ส.ค. 65
3.นายอภิศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1585/2565
ลงวันที่ 8 ส.ค. 65
4.น.ส.นนทกร (สงวนนามสกุล) อายุ ๔๙ ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1586/2565ลงวันที่ 8 ส.ค. 65 (ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้แล้วในข้อหาอื่น ปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษพัทยา)
กระทำความผิดในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม และโดยทุจริตหลอกลวง ร่วมกันเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1.บัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวน 31 รายการ
2.เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 เครื่อง
3.โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต จำนวน 8 เครื่อง
สถานที่จับกุม ในพื้นที่ หมู่ 10 ซอยเขาตาโล 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณปี 2560-2563 นายกุณฑล ผู้ต้องหา กับพวกได้เคยก่อคดีฉ้อโกงประชาชน หลอกลวงว่าสามารถดำเนินการช่วยอนุมัติบัตรเครดิตให้ได้ โดยผู้ต้องหาจะใช้ภาพโลโก้ธนาคารมาสร้างโปรไฟล์ Facebook , Line จากนั้นได้ทำการโฆษณาทางสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ว่าสามารถดำเนินการให้ประชาชนทั่วไปสามารถขอสินเชื่อ บัตรกดเงินสด หรือเงินกู้ต่างๆ กับธนาคารได้ โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารสามารถวิ่งเต้นเพื่อให้อนุมัติสินเชื่อได้ เมื่อมีผู้หลงเชื่อ ผู้ต้องหาจะทำการปลอมเอกสารให้ผู้เสียหายเพื่อยื่นขอสินเชื่อ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน รายการเดินบัญชีธนาคาร โดยมีค่าดำเนินการทำเอกสารปลอม เป็นเงิน 2,000 – 5,000 บาท และส่งมอบเอกสารปลอมให้ผู้เสียหายไปยื่นกับธนาคาร และคิดค่าใช้จ่ายจากผู้เสียหายอีก จำนวน 10% ของวงเงินที่ผู้เสียหายต้องการยื่นกู้ โดยอ้างว่าเป็นค่าวิ่งเต้นกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อการอนุมัติวงเงิน
เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อและนำเอกสารไปยื่นกับธนาคารแล้ว ผู้ต้องหาจะส่ง SMS ไปให้ผู้เสียหาย หลอกว่ากำลังจะได้รับอนุมัติวงเงินแล้ว และส่งข้อความที่เป็นภาษาทางการเงินของทางธนาคารต่างๆ ให้ผู้เสียหายสับสน และหลงเชื่อว่าเป็นข้อความจากธนาคารที่ตนเองนำเอกสารไปยื่นกู้ โดยผู้ต้องหาจะอ้างข้อความ SMS แจ้งการอนุมัติเบื้องต้น เพื่อเรียกเงินค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายที่หลงเชื่อโอนเงินเพิ่มให้กับผู้ต้องหากลุ่มนี้อีก ซึ่งมีผู้เสียหายบางรายโอนเงินให้ผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นเงินกว่า 300,000 บาท จนกระทั่ง ผู้เสียหายได้รับข้อความ SMS จากธนาคารจริงๆ โดยแจ้งผลว่าไม่อนุมัติสินเชื่อได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่ครบหรือเอกสารไม่เป็นความจริง” จึงทราบว่าถูกผู้ต้องหากลุ่มนี้หลอกลวง ซึ่งนายกุณฑล เคยถูกจับกุมตัว ด้วยพฤติการณ์เดียวกันนี้มาก่อนแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2563 แต่ได้ประกันตัวออกมาและหลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาล
โดยนายกุณฑล เป็นผู้ทำหน้าที่ปลอมเอกสาร, พูดคุย และ ส่ง SMS หลอกลวง ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือทำหน้าที่เปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับโอนเงินจากผู้เสียหายและเบิกถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม ต่อมามีผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนหลายรายเข้ามาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ในคดีซึ่งมีพฤติการณ์ในการหลอกลวงคล้ายกับที่นายกุณฑล เคยก่อเหตุมาก่อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายกุณฑล ได้กลับมาก่อเหตุลักษณะเดิมอีกครั้ง จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายจับและหมายค้น โดยสามารถเข้าตรวจค้นจับกุมตัวนายกุณฑลฯ และผู้ร่วมขบวนการได้ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.ฉะเชิงเทรา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา