กองบัญชาการตำรวจนครบาล
วันที่20 ก.ย.65เวลา 13.00 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์
เพชรบรม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง
รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. แถลงผลการจับกุมนายอัครพงษ์ หรือแจ๊ก อายุ 58 ปี โดยเจ้าหน้าตำรวจ สน.ดอนเมือง สืบสวนติดตามจับกุมได้ที่ตลาดโต้รุ่งสะพานฟ้า ซอยรังสิต-นครนายก 8 น.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
พร้อมด้วยของกลาง
1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีน้ำเงินขาว ทะเบียน สษต 724 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน
2.กุญแจรถจักรยานยนต์ จำนวน 10 ดอก
3.หมวกนิรภัยสีดำ จำนวน 1 ใบ
4.สายยูล็อค จำนวน 1 สาย
สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า วันที่ 29 สิงหาคม 2565
เวลาประมาณ 07.00 น. ได้จอดรถ จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ ทะเบียน รคน 446 กรุงเทพฯ ไว้ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้า
ตลาดใหม่ดอนเมือง (สถานที่เกิดเหตุ) ต่อมาเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2565 ได้กลับมาไม่พบรถจักรยานยนต์
จึงมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้าย
เมื่อทราบเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฯ จึงได้ลงพื้นที่สอบถามผู้เสียหายและเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ
จนทราบว่ากล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ได้บันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ เจ้าหน้าฝ่ายสืบสวนฯ จึงได้สืบสวนติดตามคนร้ายเรื่อยมา กระทั่งทราบว่าคนร้ายได้หลบหนีมาที่บริเวณสถานที่จับกุม
จึงได้ลงพื้นที่หาข่าวคนร้ายคนดังกล่าว
จนต่อมาวันที่ 17 กันายายน 2565 ได้แจ้งจากผู้เสียหายอีกรายว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2565 เวลาประมาณ
11.30 น. ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีน้ำเงินขาว ทะเบียน 724 ไม่ทราบหมวดจังหวัด ซึ่งเป็นรถที่ตนซื้อต่อ
มือสองมา ได้ไปจอดไว้หลังร้านอาหารตามสั่งตรงข้ามธนาคารออมสิน ถนนเชิดวุฒากาศ แขวงดอนเมือง เวลาประมาณ
20.30 น. ได้กลับมาไม่พบรถจักรยานยนต์จึงมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้าย
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฯ ทราบเหตุจึงได้ลงพื้นที่สอบถามผู้เสียหาย และเก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ จนกระทั่ง
กล้องวงจรปิดของสำนักการจราจรและขนส่งกรุงเทพมหานครและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้บันทึกภาพผู้ต้องหาไว้ได้
โดยคนร้ายมีรูปพรรณคล้ายกับคนที่เคยก่อเหตุครั้งก่อน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนที่ได้ลงพื้นที่หาข่าวคนร้ายและเฝ้าซุ่มอยู่ที่บริเวณ
สถานที่จับกุมจน พบนายอัครพงษ์ หรือแจ็ค ซึ่งมีลักษณะรูปพรรณสัณฐานตรงกันกับบุคคลที่มาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์เมื่อ
วันที่ 30 สิงหาคม 2565 ที่จอดไว้ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าตลาดใหม่ดอนเมือง เดินมาที่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ
สีน้ำเงินขาว ทะเบียน สษต 724 กรุงเทพฯ เพื่อที่จะหยิบเอาของและใช้กุญแจไขรถรถจักรยานยนต์ คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบและตรวจค้น ผลการตรวจสอบและตรวจค้น ปรากฏว่าเป็นรถจักรยานยนต์ คันที่ได้แจ้ง
หายไว้ที่สน.ดอนเมือง เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 21.08 น. สอบถามนายอัครพงษ์ หรือแจ็ค ฯ ให้การรับว่าตนได้ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ มาจริง โดยเวลาประมาณ 19.00 น. ตนได้ขับขี่รถ จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า
รุ่นฟี่โน่ สีเขียวขาว “คันก่อเหตุ” ไปจอดไว้ที่บริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟดอนเมือง แล้วเดินมาที่บริเวณหลังร้านอาหารตามสั่ง
ตรงข้ามธนาคารออมสิน ถนนเชิดวุฒากาศ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ พบรถ จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ
สีน้ำเงินขาว ทะเบียน สษต 724 กรุงเทพฯ จอดอยู่จึงได้ทำการ ลักทรัพย์เอารถ จักรยานยนต์คันดังกล่าวแล้วหลบหนีไปจอดซ้อนไว้บริเวณลานจอดรถตลาดโต้รุ่งสะพานฟ้าซอยรังสิต-นครนายก 8 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยใช้สายยูล็อกรถไว้
จากนั้นได้นั่งแท็กซี่กลับมาเอารถจักรยานยนต์คันที่จอดไว้ที่ลานจอดรถสถานีรถไฟดอนเมือง เมื่อขับขี่รถ จักรยานยนต์
“คันก่อเหตุ” กลับไปที่ลานจอดรถตลาดโต้รุ่งสะพานฟ้า ซอยรังสิต-นครนายก 8 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัด
ปทุมธานี จึงได้นำรถมาจอดไว้ที่ลานจอดรถของตลาด เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งเพียงแต่เช่าห้องรายวันอยู่หลับนอน แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและรับของโจร ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฯ ได้สืบทราบหาพยานเพิ่มเติมขยายผลการจับกุมตัว นายอัครพงษ์ หรือแจ็คฯ พบว่าผู้ต้องรายนี้ที่ผ่านมาได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วไม่ตำกว่า 26 คัน ในพื้นสน.ดอนเมือง บริเวณใกล้เคียง และจะนำขายผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์
คดีต่อมาเป็นผลงานของ ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี จับกุมคนร้ายแก๊งเวียดนามล้วงกระเป๋านักท่องเที่ยวย่านราชประสงค์
กรณีเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 11.50 น. ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์รับแจ้งเหตุโครงการ SMART SAFETY ZONE
4.0 ผ่านระบบ SOS ว่าขณะที่ Mrs.HOLAI FUNG ELISIE (นางโฮ หลาย ฟัง เอลซี) สัญชาติสิงคโปร์ และครอบครัวอยู่ที่ศาล
พระพรหมเอราวัณ ได้มีคนร้ายจำนวน 3 คน มาล้วงกระเป๋าผู้เสียหายได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดธนบัตรดอลล่าร์สิงคโปร์ จำนวน
1,700 ดอลล่าร์ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 44,455 บาท) และบัตรเครดิต จำนวน 3 ใบ จากนั้นได้หลบหนีไป และคนร้ายมีการ
พยายามนำบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปรูดใช้ซื้อสินค้า เหตุเกิดบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ ถนนพระราม 1
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่า
เหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 11.50 น. บริเวณทางเดินเท้า
ศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ ถนนพระราม 1 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร จึงได้ออกสืบสวนหาข่าว
และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามโครงการ Smart Safety Zone 4.0 ประกอบกับกล้อง
วงจรปิดของกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานเอกชนตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี จนสามารถสามารถติดตามจับกุมตัว
ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้จำนวน 2 คน ได้แก่Mrs.Do THI KIM HOA (นางโด ทิ คิม โฮ) พร้อมของกลางชุดที่สวมใส่ในวันก่อ
เหตุและธนบัตรดอลล่าร์สหรัฐและธนบัตรไทยอีกจำนวนหนึ่งที่คาดว่าน่าจะได้มาจากการะทำความผิด โดยจับกุมคนรายได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง
ภายในซอยอิทามระ 49 และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.จันทบุรีร่วมจับกุม Mr.NGUY VAN CONG (นายงุย แวน คอง)
ได้ที่จุดผ่านแดนบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ขณะกำลังหลบหนีออกนอกประเทศ ส่วนผู้ร่วมกระทำความผิด
อีกคนกำลังติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิ
ชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนและเป็นการร่วมกันกระทำผิดเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้
ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอน
เงินสด”
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การปฏิเสธ และไม่ขอให้การใดๆในชั้นสอบสวน ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหา โดย
พนักงานสอบสวนจะได้นำตัวผู้ต้องหาฝากขังยังศาลอาญากรุงเทพใต้และรวบรวมพยานหลักฐานสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการต่อไป
พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้เน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า จะมุ่งเน้น
การป้องกันอาชญากรรม ให้กับพี่น้องประชาชน และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งทำการ สืบสวน ติดตามจับกุม คนร้ายมา
ดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดีและจะดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครมีความปลอดภัยมากที่สุด















