เปิดใจยายเล็กและยายใหญ่ผู้เลี้ยงดูน้องโชค นักเรียนชั้น ม.3 ก่อนเสียชีวิตเพราะเพื่อนทำปืนลั่นใส่
นนทบุรี วันที่ 15 ก.ย.65 เมื่อเวลา 23.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 40/259 ซอย 21/3 หมู่บ้านพฤกษา14 พบ นาง ยลดา งามสุด อายุ 59 ปี(สวมเสื้อลายแถบสีเขียว)หรือยายใหญ่ซึ่งเป็นผู้เลี้ยงดู ด.ช.นพศิลป์ งามสุด หรือน้องโชค อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดลาดปลาดุก จ.นนทบุรี ซึ่งเสียชีวิตจากการที่เพื่อนร่วมชั้นเรียนได้นำเอาอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 มาเล่นโชว์ที่โรงเรียน จนเป็นเหตุให้ปืนลั่นใส่เข้าที่บริเวณศีรษะจนทำให้เสียชีวิต ตามที่เป็นข่าว โดย นาง ยลดา เล่าว่า ปกติน้องโชคจะนอนอยู่ในห้องกับยายทุกวัน เนื่องจากว่าแม่จะต้องไปทำงานที่จังหวัดปทุม ก่อนหน้านี้ไม่มีรางบอกเหตุอะไรเลยเพราะถ้ามีตนจะไม่ยอมให้หลานไปโรงเรียนโดยเด็ดขาดแต่นี้ไม่มีลางบอกเหตุอะไรเลย คอมพิวเตอร์ของหลานก็ยังตั้งอยู่ในห้องนอน ตนไม่รู้จะพูดอะไรมันเสียใจไปหมด ทางด้าน น.ส.ปวีณา งามสุด อายุ 35 ปี แม่ผู้ตาย กล่าวว่าตนก็อยากให้ลูกได้รับความยุติธรรม เพราะตนรู้ว่าลูกของตนเป็นคนยังไง เพื่อนๆเขาก็รู้ว่าโชคเป็นคนยังไง ทำไมลูกของตนต้องมาเจออะไรแบบนี้ แล้วอะไรที่บิดเบือนไปก็ขอให้ออกมาชี้แจงด้วย เพราะทุกอย่างมีพยานหลักฐานชัดเจนหมดแล้ว
ทางด้าน นาง นันท์ภัส ชโยด อายุ 57 ปี ยายเล็ก ซึ่งเป็นของผู้ตายอีกคนนึง(ใส่แว่นตาเสื้อน้ำเงิน) กล่าวว่า เด็กกำลังจะมีอนาคตก็อยากให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของเราด้วย ถ้ายายใหญ่เป็นอะไรไปอีกคนนึงจะทำยังไง เพราะเขาเลี้ยงของเขามา พวกเราทุกคนใจสลายหมด แต่ยายใหญ่นี้หนักสุดเลย เพราะหัวใจเขาไม่แข็งแรงเพราะเป็นโรคหัวใจ ถ้าเป็นอะไรไปใครจะรับผิดชอบ
น.ส.ปวีณา งามสุด แม่ผู้ตาย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตนแยกทางกับพ่อของน้องตั้งแต่ตั้งครรภ์แล้วและเลี้ยงลูกมาคนเดียว ลูกของตนยังมีอนาคต แต่ก่อนหน้านี้ก็เล่นเกมบ้างติดโทรศัพท์วันๆอยู่บ้านกับยาย ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะขออนุญาตก่อนจะกินอะไรก็ต้องบอก เป็นเด็กที่พูดจาดี และต้องมาเจอแบบนี้ทั้งๆที่เขาเคยบอกว่า ถ้าเขาเรียนจบ ม.3 เขาจะไปสมัครเรียนต่อโรงเรียนทหาร ทุกอย่างมันพังหมดเลยแล้วตนก็มีลูกเพียงคนเดียว ก็อยากจะถามเด็กคนที่ยิงว่าทำลูกของตนทำไม แค่ต่อยลูกของตนก็ไม่สู้แล้ว มีเหตุผลอะไรที่ต้องถึงขนาดต้องฆ่ากันเลยหรอ มันรุนแรงเกินไปรึเปล่า เด็กสังคมสมัยนี้แล้วยิ่งอยู่ในโรงเรียนด้วย มันน่าเสียใจตรงที่ครูบอกตนว่าคีย์บอร์ดระเบิด แล้วเด็กคนที่ก่อเหตุกตนก็ไม่ค่อยเห็นในกลุ่มไลน์ของโรงเรียน เพราะเขาไม่ค่อยมาเรียน แล้วลูกของตนจะไปมีปัญหากับเขาได้ยังไง