เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 10 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่าได้รับแจ้งจากชาวบ้าน หมู่บ้านวังอ้ายป่อง หมู่ที่ 3 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ใกล้เคียงอ่างเก็บน้ำนฤบดนทรจินดา หรือ ห้วยสโมง สีดอละมุดช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ออกจากผืนป่าบุกเข้ามาพังบ้านเรือนขโมยหาอาหารของกินทั้งปลาร้า,น้ำมันพืช,ข้าวสาร,ข้าวสุกประชาชนในครัวกินอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3ของในหมู่บ้านแห่งนี้ โดยคืนนี้บุกบ้านของนางลัดดาวัลย์ บูรณะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 363 ทั้งที่เจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่าเฝ้าติดตามใกล้ชิด
แต่ก่อนหน้านี้ ที่ในหมู่บ้านอื่น ที่บ้านทุ่งแฝก หมู่ 3 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.นาดี บุกพังครัวชาวบ้านขโมยหาอาหารจำพวกปลารา,ผงชูรส,ข้าวสาร,ข้าวสุกในหม้อกิน 4 ครั้ง จนชาวบ้าน-ชุดผลักดันช้างป่าผลักดันออกมาที่แห่งใหม่ในหมู่บ้านวังอ้ายป่องแห่งนี้ล่าสุด
จนชาวบ้านบางส่วนไม่มั่นใจในความปลอดภัย ที่ช่วงกลางดึกสีดละมุดมักเข้ามาพังบ้าน-บุกถึงในครัวควานหาอาหารที่ชอบ-ติดใจในรสชาติกิน ต้องออกมานอนอยู่ที่วัดเพื่อความปลอดภัย ซึ่งผู้ใหญ่บ้านและชุดเฝ้าระวังรักษาหมู่บ้าน (ชรบ.)ได้ร่วมจัดกำลังร่วมกับจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่า ออกมาเฝ้าระวังช้างป่าร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานกลางดึกนี้
โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าพบเจ้าสีดอละมุดช้างป่าอุทยานฯทับลานได้บุกเข้าไปพังครัวของชาวบ้าน เพื่อหาของโปรดกิน จนเจ้าของบ้านพาลูกชายวิ่งหนีเอาตัวรอดขณะกำลังทำกับข้าวยังเหลือยายวัย70ปีอยู่ในบ้านเกรงอันตรายเพราะช้างป่ายังอยู่ในบ้าน จึงได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด เพื่อเข้าทำการผลักดันออกไปจากบ้านประชาชนดังกล่าว
โดยเหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้ เป็นช่วงที่เจ้าสีดอละมุด ช้างป่าทับลาน ทนกับความหิว และติดใจในรสชาติอาหารชาวบ้านไม่ไหว ได้บุกเข้าพังบ้าน-เข้าครัวบุกบ้านของ นางลัดดาวัลย์ บูรณะ อายุ 44 ปีอยู่บ้านเลขที่ 363 หมู่ 3 ต.แก่งดินสอ จนเจ้าหน้าที่ฯ ได้รีบช่วยกันพยุงร่าง นำตัวคุณยายอายุ 70 ปีแม่เจ้าของบ้าน พาวิ่งหนีเจ้าสีดละมุดออกจากบ้านกลางดึกขณะเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัย โดยขณะที่คุณยายวิ่งออกจากบ้านมาตามถนนคอนกรีตในหมู่บ้านบอกว่า เกิดมาอายุ 70 กว่าปีเพิ่งเคยเห็นช้าง และ วิ่งหนีช้างทั้งตกใจทั้งเหนื่อยหัวใจแทบวาย
นางลัดดาวัลย์ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ได้ยินเสียงหมาเห่าอยู่หน้าบ้าน ทันใดนั้นลูกชายคนรองบอกว่าแม่ ช้างมา ขณะที่ตนเองกำลังนั่งย่างปลาดุกอยู่ในครัว ทันใดนั้นฝาบ้านพังครืนลงมา หันมาดูอีกทีพบว่าช้างป่าได้บุกพังฝาเรือนในครัวพัง แล้วใช้งวงฉกเอาข้าวสารไปกิน
ลูกชายกับสามีตกใจต่างพากันวิ่งออกจากบ้านหนีมาเพื่อความปลอดภัย แต่ในบ้านยังเหลือยายวัย 70 ปีในบ้านอยู่ ขณะที่วิ่งมาอาศัยอยู่บ้านคุณยายละมูล พบกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯเฝ้าระวังอยู่ที่หน้าบ้าน ทันใดนั้นเสียงดังโครมครามทางหลังบ้านอีกรอบ เจ้าหน้าที่จึงร้องตะโกนบอกให้ยายวัย 70 ปี ที่ยังอยู่ในบ้าน ให้รีบวิ่งหนีออกจากบ้านเพราะเกรงว่า จะได้รับอันตราย พร้อมพากันเข้าไปพากันพยุงร่างของคุณยายวิ่งหนีออกจากบ้านกลางดึกทันที
ด้าน นางสาวสมฤดี สุบิน ชาวบ้านวังอ้ายป๋องกล่าวว่า ช่วงเวลา 20.00 น.ได้ยินเสียงเจ้าสีดอละมุดอยู่ในสวนหลังบ้านจึงพากันออกมาดูพบละมุดกำลังยืนกินต้นกล้วยอยู่ในสวน ได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านและจิตอาสาให้มาช่วยผลักดันช้างป่าออกจากสวนเพื่อความปลอดภัย
ชาวบ้านอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดการช้างออกจากหมู่บ้านโดยเร็ว และขู่ว่าหากอุทยานแห่งชาติทับลานไม่สามารถจัดการเจ้าสีดอละมุดไม่ให้มาทำลายพืชผลและบ้านเรือนประชาชนได้ ชาวบ้านจะรวมตัวกันขับไล่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลกออกจากพื้นที่ เนื่องจากไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะช้างป่าทำร้ายร่างกายคนบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว 2 ราย ที่ผ่านมาชาวบ้านต.ทุ่งโพธิ์ และแก่งดินสอได้รับความเสียหายทางพืชผลการเกษตรรวมถึงบ้านเรือนพังเสียหายในเดือนนี้เกืบ10ครั้งแล้วใน2หมู่บ้าน
สำหรับช้างป่าสีดอละมุด ได้ออกนอกเขตอุทยานแห่งชาติทับลานออกมาหากินในหมู่บ้านติดเชิงเขาอุทยานแห่งชติทับลาน มานานมากกว่า 4 – 5 เดือนแล้ว กินพืชผลการเกษตร , บุกพังบ้านเรือน โดยเฉพาะชอบเข้าครัวรื้อค้นหาอาหารชาวบ้านเป็นประจำ โดยชอบ-รื้อค้นในครัวชาวบ้านขโมยปลาร้า,ผงชูรส และข้าวสารไปกิน
เคยทำร้ายชาวบ้านได้รับบาดเจ็บมาแล้ว 2 ครั้ง ทางป่าไม้ได้จับติดปลอกคอที่ติดสัญญาณติดตามตัวในการเฝ้าระวังเพื่อผลักดันก่อนหน้านี้ แต่สีดอละมุด ยังออกนอกผืนป่าอุทยานฯมาหากินในหมู่บ้านใกล้เชิงเขาอุทยานฯเป็นประจำ
