นนทบุรี แม่ค้าสาวร้องทนายดัง ถูกเมียทหารยศพันโทหลอกชวนเที่ยวเมืองจีน-ญี่ปุ่น สุดท้ายเสียเงินอดเที่ยวตามที่วางแพลนไว้
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม 68 ที่สำนักงานทนายความมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.น้อง (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 33 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้าออนไลน์ นำเอกสารหลักฐานต่างๆเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิฯ นายชาญชัย ฉายบุ รองประธานมูลนิธิฯ นางชฎาภรณ์ พงศ์ทอง ที่ปรึกษามูลนิธิฯ เพื่อขอให้ช่วยเหลือในรูปคดี หลังตนเองถูกหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งเป็นภรรยาของพันโท เสธ.ทหาร สังกัดกรมทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี หลอกชวนไปเที่ยวเมืองจีนและญี่ปุ่น ตนลงเชื่อโอนเงินไปให้กว่า 69,000 บาท สุดท้ายอดเที่ยวทั้งจีนทั้งญี่ปุ่น ตามที่วางแพลนไว้กับสามี เมื่อทวงถามก็ถูกคุณนาย เสธ.ท้าให้ไปฟ้องร้องเอาเอง จึงต้องนำเรื่องมาร้องเรียนทางทนายให้ช่วยเหลือ
น.ส.น้อง ผู้เสียหาย เล่าด้วยเสียงอันเจ็บใจว่า ตนรู้จักกับน.ส.ศศิรินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือที่เรียกกันว่า “คุณนายเคท” โดยตนลงข้อความในโซเชี่ยลว่ามีปัญหาด้านคดีถูกฉ้อโกงจากเพื่อนสนิท คุณนายเคทจึงทักมาหาตน และบอกว่าสามารถช่วยเหลือในเรื่องคดีได้ เพราะว่าเขาเป็นภรรยา เสธ.ทหาร อีกทั้งพ่อตายังเป็นรองผู้กำกับปราบปรามโรงพักแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรีด้วย และยังเคยพาตนไปหาถึงที่โรงพัก โดยรองผู้กำกับคนนั้นก็พูดกับร้อยเวรว่าให้รีบทำคดีช่วยเหลือเพราะคุณนายเคทเป็นลูกสาวเขาเอง ยิ่งทำให้ตนเองหลงเชื่อสนิทใจ อีกทั้งก็ยังทราบมาว่า คุณนายเคท เป็นภรรยา ของ พันโท เสธ.ทหารคนหนึ่งจริง
ต่อมา ตนกับสามีอยากจะเที่ยวเมืองจีนเพื่อไปล่องเสื้อผ้า ที่เมืองฉงชิ่ง แต่คุณนายเคทบอกว่าไปเฉินตูดีกว่าที่นั่นข้าวของเยอะ และเขามีกลุ่มจีนสีเทา เป็นคนเปย์ให้ทุกอย่าง ตนหลงเชื่อ จึงโอนเงินค่าตั๋วไปให้เพราะคุณนายเคทบอกว่าได้จองตั๋วและซื้อตั๋วไว้ให้แล้ว มิหนำซ้ำที่เจ็บช้ำน้ำใจกว่านี้ก็คือ คุณนายเคทยังบอกว่ากลับจากเที่ยวเมืองจีนแล้วจะไปเที่ยวญี่ปุ่นต่อเลย และจองตั๋วไว้แล้วด้วย ให้ตนเองโอนเงินไปให้อีกรวม 2 ครั้ง ทั้งจีน ทั้งญี่ปุ่น รวมเป็นเงิน 69,000 บาท ขาดเหลือค่อยมาว่ากันในวันเดินทาง ตนกับสามีเห็นว่าเขาเป็นภรรยานายทหาร และมีพ่อเป็นถึงรองผู้กำกับจริง จึงหลงเชื่อโอนเงินไปให้ดังกล่าว แต่สุดท้าย พอถึงวันเดินทางกับไม่ได้ไป เมื่อทวงถามก็บอกว่ายังไม่พร้อม ยังไม่ว่าง ถ้ารอไม่ไหวเรื่องมากก็ให้ไปฟ้องร้องเอาเอง
ตนเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้น น่าจะถูกหลอกอย่างแน่นอนแล้ว จึงได้ปรึกษากับสามีและแนะนำให้มาร้องขอความเป็นธรรมกับทางทนายรณณรงค์ฯ เพื่อใช้ช่วยเหลือในรูปคดี ว่าจะสามารถเอาเงินคืนได้หรือไม่ เรื่องเงินตอนนี้ตนทำใจแล้วไม่ได้คืนก็ไม่เป็นไรแต่ที่เจ็บใจคืออยากให้ดำเนินคดีกับคุณนายเคทคนนี้เพราะเชื่อว่าอาจจะไปหลอกเอาเงินคนอื่นในลักษณะแบบนี้อีกหรือเปล่า
ทางด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเท่าที่ดูเอกสารหลักฐานต่างๆแล้ว คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มีการพูดคุยกันผ่านทางแชท อาจเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ตามมาตรา 14 เพราะมีสลิปโอนเงินเป็นหลักฐาน อาจโดนข้อหาฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท ตนจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความและร้องเรียนคุณนายเคท และช่วยดำเนินการในด้านคดีเพื่อเอาผิดตามกฎหมายต่อไป











