ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สนธิกำลังตำรวจกำแพงแสน ไล่ล่ารถขนยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด
คนขับวิ่งหนีไปซ่อนตัวในชุมชน ก่อนถูกโดรนตำรวจไล่ล่าจับกุม
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.
พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม, พ.ต.อ.พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. และ พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง รอง ผกก.2 บก.ทล.
กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.อิทธิพล พรเทวบัญชา, พ.ต.อ.อรรถพล มีเสียง, พ.ต.อ.วรัญญู กุลดิลก รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 (นครปฐม) พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร์ สวญ.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., พ.ต.ต.ศรัณยพงศ์ อ่อนสิงห์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., ร.ต.อ.ชูศักดิ์ สุนทรแสง รอง สว ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., ด.ต.โสภณ ปานเรือง, ด.ต.ศุภกร อยู่คงดี ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2
บก.ทล. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สภ.กำแพงแสน พ.ต.อ.ปราโมทย์ โพธิ์พันธุ์ ผกก.สภ.กำแพงแสน, พ.ต.ท.โยธี เบ็ญจวรรน์ รอง ผกก.สส.สภ.กำแพงแสน, พ.ต.ท.ยศพงศ์ พันธุ รอง ผกก.ป.สภ.กำแพงแสน, พ.ต.ต.ไชยวัฒน์ ทองคงหาญ สวป.สภ.กำแพงแสน, พ.ต.ท.ขจร อมรสิริพาณิชย์ สว.สส.สภ.กำแพงแสน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กำแพงแสน
ร่วมกันจับกุม นายเจษฎาฯ หรือแป๊ะ อายุ 29 ปี
ในความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) บรรจุอยู่ในกระดาษสาชุบเทียนไขสีทอง มีรูปดาวสีน้ำเงิน 5 ดวง มีเลขอารบิก 999 จำนวน 100 ห่อๆละ 10,000 เม็ด อยู่ในกระสอบพลาสติกหลากสี จำนวน 5 กระสอบๆละ 20 ห่อ รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,000,000 เม็ด (ซุกซ่อนอยู่บริเวณที่พักเท้าตอนหลัง จำนวน 2 กระสอบ และห้องเก็บของท้ายรถ จำนวน 3 กระสอบ ของรถยนต์เก๋งยี่ห้อ รถซูซูกิ สวิฟท์ สีแดง)
2. รถยนต์ยี่ห้อ รถซูซูกิ สวิฟท์ สีแดง จำนวน 1 คัน
3. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ เรียวมี สีเขียว ของนายเจษฎา หรือแป๊ะ ผู้ต้องหา ใช้ติดต่อสื่อสารเรื่องส่วนตัว และทำธุรกรรมเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 1 เครื่อง
สถานที่จับกุม ทางเข้าซุ้มประตูวัดหนองขามพัฒนา ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าตำรวจทางหลวงนครปฐม ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการขนยาเสพติดล็อตใหญ่จากภาคเหนือลงสู่ภาคใต้ โดยคนร้ายใช้รถยนต์ ยี่ห้อ รถซูซูกิ สวิฟท์ สีแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้เฝ้าระวังและตรวจสอบในเส้นทางที่รถยนต์ต้องสงสัยอาจขับผ่าน จนพบว่ารถต้องสงสัยกำลังขับขี่มุ่งหน้ามาทาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
จากนั้น พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร์ สวญ.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ได้สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชานำรถวิทยุตำรวจทางหลวง หมายเลข 2136 ออกติดตามหารถยนต์ต้องสงสัยคนดังกล่าว จนกระทั่งเวลาประมาณ
16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัยขับขี่อยู่บนทางหลวงหมายเลข 321 กม.41
อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จากการตรวจสอบพบว่าป้ายทะเบียนที่ติดอยู่กับรถต้องสงสัยมีข้อมูลไม่ตรงกับรถยนต์ใช้งานอยู่ จึงได้ขับตามสังเกตพฤติกรรมอยู่ห่างๆ และประสานขอกำลังเสริมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทางหลวง และ สภ.กำแพงแสน เพื่อช่วยสกัดตามเส้นทาง
ต่อมาเมื่อติดตามมาถึง แยกไฟแดง กม.ที่ 29 รถยนต์ต้องสงสัยเริ่มรู้ตัวและเร่งเครื่องหลบหนีเข้าไปในพื้นที่ชุมชนบริเวณฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งขณะนั้นการจราจรในพื้นที่ค่อนข้างพลุกพล่านเนื่องจากเป็นช่วงเวลาเลิกงานและโรงเรียนเลิก เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ติดตาม
ไล่ล่าได้ใช้ทั้งสัญญานไฟวับวาบและเสียงไซเรนเพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในเส้นทางสามารถหลบออกจากเส้นทางที่รถของคนร้ายกำลังหลบหนี เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ โดยคนร้ายยังได้ขับรถย้อนศรไปตามถนนที่เต็มไปด้วยรถของประชาชน จนไปถึงทางเข้าซุ้มประตูวัดหนองขามพัฒนา ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน
จ.นครปฐม จนกระทั่งรถยนต์ของคนร้ายได้เสียหลักไปชนกับกองอะไหล่ของร้านซ่อมเครื่องจักรที่อยู่ข้างทาง ทำให้รถยนต์ไม่สามารถไปต่อได้ จากนั้นมีผู้ขับขี่เป็นชาย สวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสั้นสีขาว ผมสั้น รูปร่างผอม เปิดประตูฝั่งคนขับและวิ่งหลบหนีเข้าไปหลบในชุมชน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กำแพงแสน จึงได้นำกำลังมาปิดล้อมตรวจค้นบริเวณดังกล่าว โดยตำรวจ สภ.กำแพงแสน ได้ใช้โดรนยุทธวิธีติดตามค้นหาคนร้ายจากมุมสูง จนพบตัวคนร้ายหลบอยู่ในพงหญ้าข้างกำแพงบ้านหลังหนึ่ง จึงได้นำกำลังเข้าควบคุมตัวคนร้ายรายนี้เอาไว้ได้ พบว่า คือ นายเจษฎาฯ หรือแป๊ะ เมื่อตรวจสอบในรถยนต์ต้องสงสัยพบยาเสพติดใส่กระสอบพลาสติกหลากสี ซ่อนไว้บริเวณที่พักเท้าตอนหลัง จำนวน 2 กระสอบ และห้องเก็บของท้ายรถ จำนวน 3 กระสอบโดยใช้เสื้อผ้าปกคลุมเอาไว้ นายเจษฎาฯ รับว่า ของกลางดังกล่าวที่พบทั้งหมดเป็นของตนเองจริง โดยภายในกระสอบมียาบ้า จำนวนกระสอบละ 200,000 เม็ด จึงได้ควบคุมตัวนายเจษฎา ฯ พร้อมของกลาง มาที่สถานีตำรวจทางหลวงนครปฐม เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้ง และได้แจ้งพิสูจน์หลักฐาน ภ.7 มาร่วมตรวจสอบ เป็นกระสอบพลาสติกหลากสี จำนวน 5 กระสอบๆละ 20 ห่อ รวมทั้งสิ้น ประมาณ 1,000,000 เม็ด
สอบถามคำให้การผู้ต้องหา นายเจษฎาฯ ให้การรับสารภาพว่า ตนได้รับการว่าจ้างให้ไปรับงานนักบินขนยาเสพติด โดยได้รับค่าจ้างในการขนส่งครั้งนี้เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท โดยขับรถไปรับยาบ้ามาจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อจะนำไปส่งในพื้นที่ภาคใต้ แต่เมื่อขับมาจนถึง บริเวณ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ก็มาถูกตรวจพบและจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง









