“ 191 รวบนักธุรกิจหนุ่มซุกพอตเค คาคอนโด” ตามนโยบายของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย
เนื่องจากการแพร่ระบาดของยาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและอาชญากรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันได้สร้าง
ผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ
พันธุ์เพชร .ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา รอง.ผบ.ตร.ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดติดตามจับกุม
ขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย
พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ., พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล , พ.ต.อ.กรกฎ โปชยะวณิช, พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ,
พ.ต.อ.อภิฌาน สวัสดิบุตร, พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ , พ.ต.อ.กิตติพจน์ แก้วศรีงาม รอง ผบก.สปพ., พ.ต.อ.วสันต์
ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สายตรวจ,พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์,พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง, พ.ต.ท.ศตวรรษ คนชุม ,พ.ต.ท.
ไพบูลย์ สอโส รอง ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ต.ณัฐดนัย บำรุงศรี สว.งานสายตรวจ ๒ กก.สายตรวจ ร่วมกันแถลงผลการ
ปฏิบัติดังนี้
“ 191 รวบนักธุรกิจหนุ่มซุกพอตเค คาคอนโด”
วันที่จับกุม วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 16.00 น.
จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย
1. นายพิพัฒน์ฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาที่ 1
2.นายอินอาร์ม (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ 2
3.นายภูริพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาที่ 3 (ได้จากการขยายผล)
พร้อมด้วยรายการของกลาง
1. หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมเอโทมิเดตหรือพอตเค จำนวน 564 หัว
2. ยาอี จำนวน 14 เม็ด
3. โคคาอีน จำนวน 1 กรัม
4. น้ำบลูเมทแอมเฟตามีน จำนวน 8 ถุง
5. เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 9 เครื่อง
โดยแจ้งข้อกล่าวหา
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่1 ว่า “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2
(หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมเอโทมิเดตหรือพอตเค) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า”
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่2 ว่า “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2
(หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมเอโทมิเดตหรือพอตเค) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและเสพยาเสพติด
ให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย”
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่3 ว่า “จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (หัวน้ำยาบุหรี่
ไฟฟ้าผสมเอโทมิเดตหรือพอตเค) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ,มียาเสพติดให้โทษประเภท 1
(ยาอี) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในความครอบครองโดย
ไม่ได้รับอนุญาต, มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมเอโทมิเดตหรือพอตเค)ไว้ใน
2.
ความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ไว้โดย
ประการใคซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนืองด้วยความผิด ตามมาตรา 2546 พรบ.ศุลกากร พ.ศ.2560”
สถานที่ตรวจค้น/จับกุม บริเวณริมถนน หน้าปากซอยโชคชัย 4 ซอย 31 ถนนโชคชัย 4 แขวงลาดพร้าว เขต
ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ต่อเนื่องบริเวณลานจอดรถแม็กซ์แวลู ซูเปอร์มาร์เก็ต สาขาพัฒนาการ ถนนศรีนครินทร์ แขวง
สวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ต่อเนื่อง ห้องพักเลขที่ 9/1074 IDEO Mix สุขุมวิท 103 ถนนอุดมสุข แขวง
บางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ
พฤติการณ์กล่าวคือ กล่าวคือ วันนี้ ( 12 พ.ย. 68) เวลาประมาณ 12.00 น. ร.ต.อ.ณรงค์เดช พิทักษ์
ประชาชน รอง สว.งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ ได้รับแจ้งจากสายลับจะมีการลักลอบจำหน่ายพอตเค โดยผู้ลักลอบ
จำหน่ายขับขี่รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีดำ บริเวณหน้า ฟูลริช เรสซิเดนซ์ ซอยนาคนิวาส 21 แขวงลาดพร้าว เขต
ลาดพร้าว กรุงเทพฯ จึงได้นำกำลังเข้าซุ่มสังเกตการณ์ติดตามต่อเนื่องจนถึงซอยโชคชัย๔ แยก๒๙
ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น.ของวันดังกล่าว ได้มีนายอินอาร์มถือถุงพลาสติกมาส่งมอบให้นายพิพัฒน์
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น นายอินอาร์มได้วิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปและสามารถติดตามจับกุมมา
ได้ ตรวจสอบพบเป็นหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมเอโทมิเดตหรือพอตเค จำนวน 15 หัว จากการขยายผลนายพิพัฒน์ทราบ
ว่า จะมีการส่งมอบหัวบุหรี่ไฟฟ้าที่ตนได้สั่งจากนายภูริพัฒน์ฯ จนนำไปสู่การจับกุมนายภูริพัฒน์ พร้อมของกลางหัว
น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมเอโทมิเดตหรือพอตเค จำนวน 549 หัว และยาเสพติดอื่นๆดังกล่าว โดยมีหลายกลิ่นหลายยี่ห้อ
ซึ่งนายภูริพัฒน์ฯชอบสะสมไว้เสพทุกยี่ห้อ
จากนั้นได้นำตัวผู้ถูกจับทั้งสามคน มาจัดทำประวัติและบันทึกจับกุมที่ งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ
บก.สปพ. พร้อมทั้งแจ้งสิทธิให้ทราบ ชั้นจับกุมผู้ถูกจับ ทราบข้อกล่าวหาแล้วให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
และจากนั้นนำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย และสน.ประเวศ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังจากนี้ชุดจับกุมจะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
หากประชาชนท่านใด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด เกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด หรือสิ่งของผิด
กฎหมาย โซเชียลมีเดีย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ สายด่วน 191, เพจสายตรวจและ
ปฏิบัติการพิเศษ
ที่มา : กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191)









