ปคม.ทลายแก๊งหลอกทำบัตรแรงงานต่างด้าว
พบเงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคม.,
พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.จตุรภัทร์ ภิรมณ์แก้ว รอง ผบก.ปคม.,
พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม.,
พ.ต.อ.เศรษฐณัณฑ์ ปิยะสมบูรณ์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.หญิง พรรษาวดี คล้อยระยับ สว.กก.5 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม.
ร่วมกันจับกุม
1. นายสหรัฐฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4791/2568 ลงวันที่ 18 ส.ค.68
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “โฆษณาการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, ฉ้อโกงประชาชน”
2. นายณัฐพลฯ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 5389/2568 ลงวันที่ 17 ก.ย.68 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันโฆษณาการนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา”
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน มี.ค.68 ได้มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์บริษัทกับพวก
กรณีที่บริษัท หลอกลวงผู้เสียหายว่า สามารถต่ออายุใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา และมีการโพสต์โฆษณาข้อความพร้อมรูปภาพตัวอย่างบัตรในแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดีย เจ้าหน้าที่ตำรวจ
จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนพบการกระทำผิด จากนั้นได้ทำการสืบสวนขยายผลกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการหลอกทำบัตรต่างด้าวเพิ่มเติม จนพบว่ามีกลุ่มผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม คือ 1. กลุ่มทำหน้าที่ติดต่อพูดคุย และรับเงินค่าจ้างในการพาไปทำบัตร, ติดต่อประสานงานเจ้าหน้าที่รัฐ 2. กลุ่มบัญชีรับโอนเงิน
ต่อมา เมื่อวันที่ 17 ส.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งกลุ่มนายหน้า จำนวน 2 ราย และบัญชีรับโอนเงิน จำนวน 9 ราย
(11 หมายจับ)
ต่อมา ขออนุมัติศาลออกหมายค้นเพื่อทำการตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่
จังหวัดนครปฐม 1 จุด ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 14
ต.บางปลา อ.บางเลน จ.นครปฐม ตามหมายค้นของศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 602/2568 ลงวันที่ 10 พ.ย.68 พบนายสหรัฐฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4791/2568 และนายณัฐพลฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 5389/2568 หลบหนีมาซ่อนตัวที่บ้านหลังดังกล่าว หลังจากร่วมกันเปิดบริษัทโฆษณาหลอกลวงประชาชน ว่าสามารถต่อใบอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าว บนช่องทางเฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ โดยมีผู้เสียหายหลงเชื่อและสูญเสียซึ่งทรัพย์สินหลายราย มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท โดยจากการตรวจสอบบริษัท และผู้ต้องหามีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 50 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งสิทธิตามกฎหมาย
การตรวจค้นสถานที่ตามหมายค้น สามารถตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องหลายรายการ จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาและของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากการสืบสวนกรณีร้องเรียนผู้ประกอบการและแรงงานที่ตกเป็นเหยื่อ ของการจัดหางานผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งทั้งสองผู้ต้องหาร่วมกันเปิดบริษัทนำเข้าแรงงาน ทำใบอนุญาตทำงานต่างด้าวบังหน้า พร้อมสร้างเว็บไซต์ปลอม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการหลอกลวงนายจ้าง และผู้ที่ต้องการนำเข้าแรงงาน ทั้งยังนำข้อมูลพาสปอร์ตของแรงงานเหล่านี้ไปเปิดบัญชีธนาคารในชื่อผู้อื่น (บัญชีม้า) แล้วขายสิทธิการใช้บัญชีเหล่านั้นให้กับผู้ประกอบการเว็บไซต์พนันออนไลน์ ส่งผลให้ความเสียหายรวมมีมูลค่าหลายล้านบาท
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”









