ตำรวจ ปส.จับมือ อย.ทลายเครือข่ายผลิดน้ำกระท่อมผสมยาแก้ไอ,แก้ปวด ขายนักท่องเที่ยว… ยึดทรัพย์กว่า 320 ล้านบาท
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.00 น. ที่โกดัง ซ.ประวิทย์และเพื่อน 13 เขตพระโขนง กทม.พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.วรพจน์ ดิษยบุตร รอง ผบช.ปส.,ภญ.สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการ อาหารและยา, นพ.รุ่งฤทัย มวลประสิทธิ์พร รอง
เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, ภก.ฉัตรชัย พานิชศุภภรณ์ ผู้อำนวยการกองควบคุมวัตถุเสพติด, ร่วมแถลงการจับยาเสพติดน้ำกะท่อมผสมยาแก้ไอ,ยาแก้ปวด จำนวนมาก
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อ 14 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงาน
ปราบปรามยาเสพติด สหรัฐอเมริกา (DEA) กรุงเทพมหานคร ได้ทำการตรวจยึดวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ซึ่งส่งออกไปนอกราชอาณาจักรไทย ปลายทางรับประเทศสหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศ จึงได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขยายผลจนสามารถออกหมายจับและทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 3 คน
รวมถึงได้ทำการตรวจยึดยาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 และ 4 ได้จำนวนมาก และ
สามารถตรวจยึดเอกสารที่เกี่ยวข้องซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด รวมมูลค่า 200 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานปราบปรามยาเสพติด สหรัฐอเมริกา (DEA) กรุงเทพมหานคร ได้สืบสวนขยายผลจนทราบถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องในเครือข่ายเพิ่มเติม ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาและจัดส่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 และ 4 ดังกล่าวให้กับกลุ่มร้านขายยาในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ กลุ่มเยาวชน
และนักท่องเที่ยวกลางคืน ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้จากการสืบสวนพบว่าเครือข่ายดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหา 3 คนที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้า
จากการสืบสวน ติดตาม ตรวจสอบข้อมูล เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถออกหมายจับกลุ่มบุคคลในเครือข่ายนี้เพิ่มเติมได้ จำนวน 4 คน จากการขยายผลการจับกุมการลักลอบจำหน่าย วจ.2 (Alprazolam) และ วจ.4 (lorazepam) ของ บช.ปส. ร่วมกับ สำนักงาน อย. ลงพื้นที่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น “ทลายเครือข่ายวัตถุออกฤทธิ์ข้ามชาติ” สถานที่เก็บ สถานที่จำหน่าย และสถานที่ผลิตน้ำกระท่อม จำนวน 5 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ รวมทั้งสิ้น 4 ราย
1. นายวีระชาติ ,2. น.ส.รดารัตน์,3.น.ส.เนตรนภา และ4. น.ส.สายชล
ในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2และ 4(อัลปราโซแลม, โซลพิเดม) โดยไม่ได้รับอนุญาต
และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2และ 4 (อัลปราโซแลม, โซลพิเดม) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำ
เพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำ
ความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกันแล้ว”
ของกลางที่ยึดไว้ตรวจสอบ
1. ยาแก้ไอ 27,500 ขวด
2. ยาเม็ดทรามาดอล 50,000 เม็ด
3. Zopiclone 1,000 เม็ด
4. Diazepam 1,500 เม็ด
และสามารถยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด ไว้เพื่อตรวจสอบ อาทิ บ้าน,ที่ดิน,รถยนต์,เครื่องประดับ ฯลฯ รวมมูลค่ากว่า 320 ล้านบาท
การจับกุมครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทยและสหรัฐอเมริกา
ที่มีเป้าหมายในการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งมีเครือข่ายกระจายอยู่ในหลายประเทศ และมีการใช้ประเทศไทยเป็นจุดผ่านส่งยาเสพติดออกไปยังต่างประเทศ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยืนยันว่าจะดำเนินการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่องเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี รวมถึงติดตามยึดทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป









