นครปฐม-ตำรวจภูธรภาค 7 แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 เวลา 15.30 น.
ณ ห้องประชุม 1 อาคารตำรวจภูธรภาค 7 ชั้น 4 อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ยกระดับเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นวาระแห่งชาติ
สำนักงานตำรวจภูธรภาค7 โดย พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7/ผอ.ศปอส.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7/รอง ผอ.ศปอส.ภ.7 พล.ต.ต.กานต์ ธรรมเกษม ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร
ฝ่ายปกครอง ภายใต้การอำนวยการ นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
ได้ขับเคลื่อนงานปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของ นายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร. จึงสั่งการให้ ผบก.ภ.จว. ในสังกัด ภ.7 และ ผบก.สส.ภ.7 ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกมิติ ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม ถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 (รวม 7 วัน) โดยมีเป้าหมาย
1.สืบสวนจับกุมและขยายผลในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่สำคัญ หรือคดีที่ประชาชนหรือสื่อมวลชนสนใจ
2. สืบสวนจับกุมคดีความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทั้ง 14 ประเภท
3. สืบสวนจับกุมคดีที่เกี่ยวกับซิมผี บัญชีม้า ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568
4. สืบสวนจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์การสื่อสารที่ผิดกฎหมาย เช่น ซิมบ็อกซ์ (GSM Gateway)
5. สืบสวนติดตามทรัพย์คืนให้กับผู้เสียหายตามโครงการ Money Cash Back
6. สืบสวนจับกุมหรือสกัดกั้นคนไทยที่จะเดินทางออกจากประเทศไปร่วมในขบวนการสแกมเมอร์ทุกรูปแบบ
7. สืบสวนจับกุมเป้าหมายตามคำสั่งของศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ของ ศปอส.ตร. (War Room)
ผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับกุมได้จำนวน 561 คดี แยกเป็น
1. คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่สำคัญ จำนวน 4 คดี
2. คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 14 ประเภท จำนวน 195 คดี
3. ซิมผี บัญชีม้า ตาม พ.ร.ก.มาตรการฯ จำนวน 38 คดี
4. Money Cash Back จำนวน 28 คดี
5. เป้าหมายจาก War Room (ใหม่) จำนวน 2 คดี
6. คดีทางเทคโนโลยีอื่นๆ จำนวน 294 คดี ผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับกุมคดีสำคัญหรือที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม โดย สถานีตำรวจภูธรสามพราน คดีทลายเครือข่ายสแกมเมอร์ “ซุ้มอรัญ” จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
พร้อมของกลาง รถยนต์เก๋ง จำนวน 1 คัน สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
2. ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม โดย สถานีตำรวจภูธรสามพราน คดีสกัดทุนเวียดนามเทา จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า 1. “รับบุคคลต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”
2. “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” 3. ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม โดย สถานีตำรวจภูธรสามพราน คดีฉ้อโกงออนไลน์ จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
พร้อมของกลาง เงินสด 358,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
4. ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร โดย กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ทลายคอกม้าต่างด้าว จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า
1. “เป็นธุระจัดหา โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”
2. “จำหน่ายโดยมีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต”
พร้อมของกลาง ยาบ้า 64 เม็ด สมุดบัญชีธนาคาร 73 เล่ม บัตร ATM 136 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง
5. กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 จับกุมเว็บพนันออนไลน์ “Wink333” จับกุมผู้ต้องหาได้ 7 คน
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือโฆษณา หรือชักชวน โดยทางตรง หรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันออนไลน์ โดยไม่ได้รับอนุญาต พนันเอาเงินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันฟอกเงิน”
6. ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จับกุมเว็บพนันออนไลน์ “Lavabet555” เงินหมุนเวียนกว่า 637 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือโฆษณา หรือชักชวน โดยทางตรง หรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันออนไลน์ โดยไม่ได้รับอนุญาต พนันเอาเงินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันฟอกเงิน”
ของกลาง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค สมุดบัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือ บัตร ATM War Room PCT แจ้งเตือนช่วยเหลือผู้เสียหาย จำนวน 3 ราย
1. สถานีตำรวจภูธรพนมทวน จว.กาญจนบุรี ความเสียหาย 196,913 บาท
พฤติการณ์ ผู้เสียหายถูกหลอกให้ซื้อโทรศัพท์มือถือ iPhone 17 จาก Facebook ชื่อ “พี่พิมพ์แม่ค้าออนไลน์ 100 ล้าน” ในราคา 990 บาท โดยหลอกให้โอนค่าดำเนินการต่างๆ
ตำรวจภูธรภาค 7 ได้รับข้อมูลจาก War Room สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายหลังจากที่ผู้เสียหายได้โอนเงินไปแล้ว และในวันที่ผู้เสียหายกำลังจะโอนเงินอีกจำนวน 80,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาประสานเหตุการณ์ไว้ได้ทัน จึงไม่ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวไปเพิ่มอีก และผู้เสียหายได้มาแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.พนมทวนเรียบแล้ว สุดท้ายนี้ได้รับคำขอบคุณจาก ผู้เสียหาย ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เข้ามาช่วยเหลือแนะนำยับยั้งการทำธุรกรรมโอนเงินให้กับคนร้ายได้ทันท่วงทีทำให้ไม่ต้องสูญเสียทรัพย์สินไปมากกว่านี้
2. สถานีตำรวจภูธรหัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ ความเสียหาย 20,372 บาท
พฤติการณ์ ผู้เสียหายถูกหลอกให้โอนเงินจากเพจ Facebook ชื่อ “อาจารย์เอจักรพรรดิ” โดยบอกกับผู้เสียหายว่าได้รับเงินรางวัล และให้ส่งเลขบัญชีไปให้เพื่อรับเงิน แต่หลอกให้โอนเงินไปเป็นค่าดำเนินการ
ตำรวจภูธรภาค 7 ได้รับข้อมูลจาก War Room สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับการเฝ้าระวัง การทำธุรกรรมการโอนเงินไปยังบัญชีม้าคดีออนไลน์ พบว่าผู้เสียหายได้โอนเงินไปยังบัญชีม้าคดีออนไลน์ จึงได้เข้าช่วยเหลือและผู้เสียหายได้มาแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.หัวหินแล้ว สุดท้ายนี้ได้รับคำขอบคุณจาก ผู้เสียหาย ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่านและสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เข้ามาช่วยเหลือแนะนำยับยั้งการทำธุรกรรมโอนเงินให้กับคนร้ายได้ทันท่วงทีทำให้ไม่ต้องสูญเสียทรัพย์สินไปมากกว่านี้ 3. สถานีตำรวจภูธรบ้านโป่ง จว.ราชบุรี ความเสียหาย2,942,856 บาท
พฤติการณ์ ผู้เสียหายถูกหลอกให้โอนเงินลงทนเกี่ยวกับสินค้าประเภทชุดชั้นในยี่ห้อ Orbix ซึ่งผลกำไรจะมาจากการผลักดันสินค้า ต้องลงทุนเพิ่มเพื่อผลักดันสินค้าตำรวจภูธรภาค 7 ได้รับข้อมูลจาก War Room สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับการเฝ้าระวังการทำธุรกรรมการโอนเงินไปยังบัญชีม้าคดีออนไลน์ จึงเข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินไปแล้วกว่า3 ล้านบาท เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแจ้งเตือนและช่วยประสานธนาคารจึงอายัดเงินไว้ได้ 500,000 บาท ผู้เสียหายหายขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เข้าช่วยเหลือ แนะนำ ยับยั้งการหลอกให้ทำธุรกรรมโอนเงินได้ทัน https://drive.google.com/file/d/1ooR-IFa8JVO_2ZmevbVZ5dHUPVdHPuqc/view?usp=drivesdk
ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม
