นนทบุรี คลิป ไล่ล่าระทึก! รวบ 2 โจ๋เมากัญชา-กระท่อม พกมีดรุมทำร้ายกลุ่มนักศึกษาวิศวะในร้านสะดวกซื้อ อ้างถูกมองหน้า
เมื่อวันที่ 4 พ.ย.68 พ.ต.อ.ชยชัย นาธนกาญจน์ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ท.อิศราณุวัฒน์ ธนทรัพย์ทวี รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.ภูรินทร์ บุญชัยวงศ์ สวป.(ชส.) สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมกำลังสายตรวจ ร่วมกันจับกุมนายสิทธิกร โฆษกุลบัณฑิต อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนายศุภชัย ชูกลิ่น อายุ 19 ปี พร้อมของกลางอาวุธมีดปลายแหลม 2 เล่ม และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน ได้แก่ ฮอนด้า เวฟ 125 สีดำ ทะเบียน 7 กษ 2889 กรุงเทพมหานคร และ ยามาฮ่า แกรนด์ฟีลาโน่ ทะเบียน 4 กฬ 1501 กรุงเทพมหานคร หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดรุมทำร้ายกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ คณะวิศวกรรมอุตสาหการ ชั้นปีที่ 2 ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดบริเวณร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ปากซอยนนทบุรี 6 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยมีคลิปจากผู้เสียหายบันทึกขณะเกิดเหตุไว้ได้
หลังรับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุนนทรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจชุดจับกุม นำโดย จ.ส.ต.นครินทร์ ปานันท์ และ ส.ต.ท.นัธทวัฒน์ เกตุแก้ว ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบว่าผู้ก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันหลบหนีเข้าไปในหมู่บ้านณรงค์สุขนิเวศน์ ซอยนนทบุรี 6 แยก 6 จึงติดตามไปตรวจสอบจนพบกลุ่มผู้ต้องสงสัยจำนวน 4 คน ขับรถวนเวียนอยู่ภายในซอยดังกล่าว
ขณะเจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดรถและวางอาวุธ ผู้ต้องหาบางรายกลับขับรถพุ่งชนเจ้าหน้าที่ ทำให้รถสายตรวจล้มลง ก่อนจะขับหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงวิทยุเรียกกำลังเสริมและไล่ติดตาม โดยผู้ต้องหาได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีเข้าไปภายในซอยนนทบุรี 4 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี และทิ้งรถจักรยานยนต์ วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงวิ่งไล่ติดตามจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน และอาวุธมีด ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 รายวิ่งหลบหนีไปได้ ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ขณะที่ผู้ต้องหาอีก 2 คนอยู่ระหว่างติดตามตัว
จากการสอบสวนนายสิทธิกร และนายศุภชัย ให้การวกวน พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง ลักษณะคล้ายคนมึนเมา มีอารมณ์ฉุนเฉียวตลอดเวลา ให้การเบื้องต้นว่า ก่อนก่อเหตุได้ดื่มน้ำท่อมและสูบกัญชา แล้วขับรถจักรยานยนต์ไปบริเวณที่เกิดเหตุ เหตุมาจากกลุ่มผู้เสียหาย “มองหน้า” จึงเกิดความไม่พอใจเข้าไปหาเรื่อง ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาสถาบันแต่อย่างใด เป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ
นายเกม อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุเกิดขึ้นขณะตนและกลุ่มเพื่อนเพิ่งสอบเสร็จ กำลังเดินไปซื้อของในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ระหว่างทางมีชายสองคนขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน ก่อนวิ่งถือมีดเข้ามาไล่จี้ พร้อมตะโกนเสียงดังว่า “มึงมองหน้ากูหรอ มึงมองหน้ากูใช่ไหม” จากนั้นตนและเพื่อนรีบวิ่งหนีเข้าไปในร้าน มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยห้ามไว้ ตอนแรกคิดว่าเรื่องคงจะจบแล้ว
แต่เพื่อนอีกคนได้เตือนว่าอย่าเพิ่งออกไป เพราะเกรงว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุอาจดักรออยู่ด้านนอก จึงชะโงกหน้าออกไปดูก็พบว่าผู้ก่อเหตุยังอยู่หน้าร้าน และทำท่าทางคุกคาม ก่อนบุกเข้ามาภายในร้าน ใช้อาวุธมีดไล่ทำร้ายอย่างไม่ยั้ง ตนจึงต้องวิ่งไปหลบหลังเคาน์เตอร์ พนักงานเซเว่นพยายามยกมือไหว้ขอร้องให้หยุด แต่ผู้ก่อเหตุไม่ฟัง มีอาการคล้ายคนเมา ตอนนั้นรู้สึกกลัวมาก กลัวว่าจะไม่ได้กลับบ้านอีก ยืนยันว่าไม่รู้จักกับกลุ่มคนร้าย ไม่เคยมีเรื่องหรือมองหน้ากันมาก่อน
นายเกม กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีเพื่อนนักศึกษาถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ นายตี๋ อายุ 23 ปี นักศึกษาปี 2 คณะวิศวกรรมอุตสาหการ ถูกของแข็งคล้ายอิฐกระแทกศีรษะ ต้องเอกซเรย์สมอง และนายจ๊อบ อายุ 22 ปี คณะเดียวกัน ถูกฟันที่นิ้วมือเลือดไหลไม่หยุด ทั้งหมดอยู่ในอาการตกใจและยังไม่สามารถกลับมาเรียนได้ตามปกติ
ขณะที่น.ส.นัท อายุ 22 ปี เพื่อนของผู้เสียหายและเจ้าของคลิปวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุตนเกือบโดนมีดแทง โชคดีที่เพื่อนผู้ชายช่วยกันไว้ได้ เพราะตนวิ่งไปหลบหลังเคาน์เตอร์ พนักงานเซเว่นพยายามกันแต่ผู้ก่อเหตุก็ไม่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย พยายามเข้าทำร้ายร่างกายต่อหน้าคนในร้าน ขนาดยกมือไหว้บอกว่าไม่เกี่ยว ไม่รู้เรื่อง ก็ยังไม่หยุด
น.ส.นัท กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตอนนั้นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก มือไม้สั่น เหมือนช็อกและร้องไห้ตลอดเวลา แต่พยายามตั้งสติหยิบมือถือมาถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ในมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่ตนรู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมากที่สามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว เพราะทุกคนในกลุ่มยังรู้สึกกลัว ไม่กล้าออกไปไหนตามลำพัง และต้องระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม
ด้านแม่ของนายศุภชัย หนึ่งในผู้ต้องหา เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายเป็นคนเรียบร้อย ไม่เคยมีเรื่อง แต่หลังจากไปสักยันต์เพิ่มจากเดิมที่เคยสัก “9 ยอด” กับอาจารย์แจ้ ได้ไปสักรูปเสือเต็มหลังแล้วนิสัยเริ่มเปลี่ยน กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พูดอะไรนิดหน่อยก็ขึ้นเสียง ชอบทำลายข้าวของในบ้าน และมักออกหน้าแทนเพื่อนที่มีเรื่องอยู่บ่อยครั้ง หลังๆลูกชายไม่ฟังใครเลย ชอบดื่มน้ำท่อม สูบกัญชา เหมือนอยากลองของ ไม่กลัวตาย แม่พูดอะไรก็ไม่ฟัง
แม่ของผู้ต้องหากล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาพยายามเตือนลูกหลายครั้งเพราะเห็นพฤติกรรมไม่ดี แต่ลูกไม่เชื่อ คิดว่าตนเองเก่งและควบคุมสถานการณ์ได้ จนสุดท้ายมาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ต้องขอโทษผู้เสียหายและครอบครัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา “ขัดคำสั่งและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่, พกพาอาวุธมีดไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น”

*****หมายเหตุเบลอหน้า แม่ผู้ต้องหา***








