ตามรวบหัวโจกค้ายารายใหญ่เมืองนคร
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก, พ.ต.ท.อภิเดช อธิคมปัญญา, พ.ต.ท.ศรัณย์ ศรีพักตร์, พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ธีระพงษ์ คงเขียว สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.อ.ยุทธนา จิตจำนอง รอง สว.กก.5 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 7 กก.5 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายสุริยะฯ หรือเผือก อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 คดี
1. หมายจับศาลจังหวัดปากพนัง ที่ 12/2568 ลงวันที่ 27 มกราคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ”
2. หมายจับศาลจังหวัดปากพนัง ที่ 2/2568 ลงวันที่ 15 มกราคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการขายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สถานที่จับกุม คอนโด ถ.กำแพงเพชร 6 ซอย 5 แยก 2 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดปฏิบัติการสืบสวนขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติต่อเนื่องอำเภอเชียรใหญ่ หลังได้รับรายงานว่านายสุริยะฯ หรือเผือกสระเพลง มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ จึงวางแผนติดต่อสั่งซื้อยาไอซ์จำนวน 1 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 230,000 บาท
โดยนายสุริยะฯ ตกลงจำหน่ายและสั่งให้นายวิมลชัยฯ เป็นผู้นำของกลางไปส่งให้ เมื่อถึงเวลานัดหมายบริเวณ สี่แยกบ่อล้อ ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่านำยาไอซ์ 1 กิโลกรัม ไปวางไว้ที่โคนเสาป้ายห้ามจอด ต.สวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ
เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบรถของนายวิมลชัยฯ อยู่บริเวณใกล้เคียง จึงแสดงตัวตรวจค้นและจับกุมได้พร้อมยาไอซ์จำนวน1 กิโลกรัม จากการขยายผลตรวจค้นเพิ่มเติมพบยาบ้า 1,200 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในบ้านพักของนายวิมลชัยฯ
จากการสอบสวนนายวิมลชัยฯ ให้การรับสารภาพว่าได้รับยาไอซ์จาก นายสุริยะฯ เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงเดินหน้าขยายผลเครือข่ายอย่าง
ต่อมาเดือนพฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับ นายจรวยฯ ได้ขณะขนยาเสพติดในรถยนต์จากการตรวจค้นพบยาบ้า 65,658 เม็ด, ยาไอซ์ 7.5 กิโลกรัม และยาอี 1,110 เม็ด ซึ่งเป็นของกลางล็อตใหญ่ในเครือข่ายเดียวกัน พบความเชื่อมโยงกับนายสุริยะฯ ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นผู้สั่งการกระจายยาในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง
หลังเกิดเหตุนายสุริยะฯ ได้หลบหนีออกจากพื้นที่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่านายสุริยะฯ ไปหนีกบดานเช่าคอนโดหรูอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และยังทำหน้าที่สั่งกระจายยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง จึงเดินทางไปตรวจสอบ และวางแผนจับกุมตัวไว้ได้ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”