ปทุมธานี รพ.สามโคกแจงปมเด็ก7ขวบดับในห้องฉุกเฉิน รอง สสจ.เสียใจยันไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งสอบสาเหตุการเสียชีวิต
เมื่อเวลา17.00 น.วันที่ 8 ต.ค.68 นายแพทย์จตุพงษ์ จันทร์ทอง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี และผอ.โรงพยาบาลสามโคก กล่าวกับผู้สื่อข่าวกรณีเด็กชายอายุ 7 ขวบเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสามโคก ว่าก่อนอื่นตนเองและบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลสามโคกต้องขอแสดงความเสียใจกับพ่อแม่และครอบครัวของน้องที่เสียชีวิตอย่างสุดซึ้ง ตนเองพึ่งทราบเรื่องเมื่อตอนเที่ยงวันนี้และก็ได้ประชุมทีมงานหาข้อสรุปทั้งหมดเกี่ยวกับเคสนี้ การหาสาเหตุการเสียชีวิตของน้องว่า มีสาเหตุการเสียชีวิตจากอะไรได้บ้างเพื่อเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงพัฒนาระบบทางการแพทย์ของโรงพยาบาลและการให้บริการซึ่งเคสนี้น้องได้เข้าโรงพยาบาลมาเมื่อตอน 20:00 น.วันที่ 7 ตุลาคม 2568 เส้นทางจุดคัดกรองบอกว่า น้องคนนี้ได้ไปรักษาโรงพยาบาลเอกชนมาแล้วและก็ได้มารักษาตามสิทธิ์การรักษา ซึ่งน้องมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการอาเจียนและถ่ายเหลว น้องอายุ 7 ขวบซึ่งเป็นได้หลายสาเหตุส่วนไข้ชักนั้นจะเจอต่ำกว่าเด็กอายุน้อยกว่านี้ ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้หลายๆ อย่างส่วนเคสนี้ไม่ทราบจริงๆ ส่วนข้อมูลตรงนี้แพทย์ที่ทำการรักษาน้องได้ให้ข้อมูลกับตนเอง เมื่อน้องมาถึงโรงพยาบาล จุดแรกเลยคือการคัดกรองหรือการคัดแยกผู้ป่วยตามการวิกฤต ซึ่งน้องอยู่ในอันดับสีชมพู คือสีชมพู นั้นมีภาวะวิกฤตเร่งด่วน ทีมห้องฉุกเฉินต้องดูแลอย่างใกล้ชิดวัดชีพจรวัดสัญญาณชีพถี่กว่าปกติ และต้องดูแลเป็นพิเศษ สิ่งที่ประเมินเริ่มแรกทางทีมแพทย์ประเมินว่า น้องมีภาวะขาดน้ำในระดับปานกลางซึ่งคุณหมอจะอยู่ข้างในห้องอีอาร์โดยปกติแล้วจะไม่ให้ญาติเข้าไปในนั้นให้ญาติรออยู่ทางด้านนอกและญาติอาจจะไม่เข้าใจวิธีการรักษาซึ่งเราได้ทำการรักษาตั้งแต่ 2 ทุ่มและแอดมิดถึงประมาณ 22:30 น.ระยะเวลาประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงครึ่งซึ่งตนเองได้สำรวจแล้วว่าเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งนั้น ได้มีการสำรวจคนไข้มีภาวะขาดสารน้ำและมีการเจาะเลือด อย่างแรกคือการให้สารน้ำเพราะต้องการให้คนไข้มีการฟื้นฟูซึ่งเบื้องต้นเราไม่ทราบว่าเด็กเป็นอะไร แต่เด็กมีอาการอาเจียนต้องมีภาวะขาดน้ำอยู่แล้ว แล้วเรามาทราบว่าน้องมีภาวะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A อยู่และช่วงนี้อยู่ในช่วงการระบาด เมื่อเราทราบแล้วว่าน้องมีภาวะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A อาจจะเรื่องเดียวกันหรือคนละเรื่องก็ได้ซึ่งห้องฉุกเฉินเราต้องรักษาภาวะวิกฤตก่อนซึ่งน้องคนนี้มีอยู่ด้วยกัน 2 เรื่อง เรื่องแรกคือมีภาวะขาดน้ำ ส่วนเรื่องที่ 2 มีภาวะชักซึ่งทางทีมก็เฝ้าระวังอยู่แล้วและตนเองก็ได้ดูแล้วด้วย ซึ่ง 2 ชั่วโมงนี้กลัวน้องมีภาวะดีพอสมควรระดับหนึ่งเพื่อที่จะเข้ามาหาสาเหตุต่อประมาณซัก 4 ทุ่มครึ่งระหว่างที่โรงเตียงนั้นก็มีจัดการขบวนการโดยพยาบาลให้น้องอยู่ห้องแยกเพราะว่าน้องมีอาการเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A พอลงเตียงได้ประมาณครึ่งชั่วโมงตัวน้องก็มีอาการชักขึ้นอีกรอบนึง จากนั้นก็มีการทำการปั๊มหัวใจ แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตน้องกลับมาได้ ซึ่งตนเองก็ได้มาสำรวจอีกครั้งหนึ่งว่า ภาวะที่น้องชักและก่อนที่จะเกิดปัญหานั้นมีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งตัวน้องนั้นยังพอพูดคุยรู้เรื่องสัญญาณชีพยังอยู่ในภาวะปกติ ซึ่งตนเองดูอย่างเป็นธรรมจริงๆและมีข้อควรปรับปรุงหรือพัฒนาตรงไหนบ้างซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ที่เร็วมากและเมื่อตนเองได้ประชุมแล้วตนเองก็ได้สอบถามทางแพทย์ที่ทำการรักษาเด็ก ซึ่งทางคุณหมอเด็กก็ให้ความเห็นว่า การเสียชีวิตอย่างรวดเร็วนั้นอาจจะเป็นไปได้ 2 อย่าง 1.ไวรัสขึ้นสมอง ติดเชื้อที่สมองอยู่ติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมองมันอาจจะทำให้เกิดอาการชักได้ซึ่งทางคุณหมอเด็กเป็นคนอธิบาย 2.ไวรัสอาจจะลงมาสู่ที่หัวใจได้ซึ่งเหตุการณ์มันค่อนข้างที่จะรวดเร็ว สัญญาณชีพของน้องปกติหรือมีภาวะขาดน้ำอาจจะทำให้น้องเสียชีวิตก็เป็นไปได้ แต่มันอาจจะไม่รวดเร็วขนาดนี้และทางแพทย์ก็ดูได้ น้องมีภาวะเป็นกรดแต่ทางทีมแพทย์ก็ได้แก้แล้ว 2 สิ่งที่เกิดขึ้นมันอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้น้องเสียชีวิตลงได้ สิ่งที่ทำให้ชัดเจนคือต้องผ่าชันสูตรและมันอาจจะเป็นสิ่งที่โหดร้ายกับทางครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิต แต่เป็นมาตรฐานของทางโรงพยาบาลอยู่แล้วแต่ก็ต้องถามคุณพ่อคุณแม่ว่ามีความประสงค์ไหม ตนเองในฐานะรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี และผอ.โรงพยาบาลสามโคก ยินดีช่วยเหลือในทุกด้านที่ทางโรงพยาบาลจะทำได้ขอแสดงความเสียใจอีกครั้ง