น.1 มอบรองจ๋อนำปราบยานรก มุ่งกวาดตัวการยาเสพติด ทำกรุงเทพฯให้ปลอดภัยจากยาเสพติด
วันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2568 เวลา 09.30 น.กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จัดการประชุมมอบนโยบายการบริหารในหน้างานที่ของ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( รอง ผบช.น.) โดยมี พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. เป็นประธาน พร้อมข้าราชการตำรวจระดับ ผบก. รอง ผบก. และ ผกก.ทุกนายในสังกัด บช.น. เข้าร่วมรับฟัง ณ ห้องประชุมกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนและผ่านระบบประชุมทางไกลผ่านจอภาพ ณ ที่ตั้งหน่วยเพื่อขับเคลื่อนตามแนวทางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. มอบหมาย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าด้านการป้องกันปราบปรามยาเสพติด(ปส) ซึ่งเป็นหน้างานที่สำคัญ ตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มอบหมาย พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร.
พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร.รับผิดชอบขับเคลื่อน
โดยแนวทางการปฏิบัติ ที่ได้วางเป็นแนวทางไว้มีเป้าหมายหลัก เพื่อลดจำนวนผู้ค้าและเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ ลดอัตราผู้เสพหน้าใหม่ และเพิ่มจำนวนผู้ผ่านกระบวนการบำบัดฟื้นฟู เสริมสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อมาตรการปราบปรามยาเสพติดของรัฐ รวมถึงใช้ข้อมูลข่าวกรองและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อตัดวงจรการค้าอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างชุดลาดตระเวนออนไลน์ปราบการจำหน่ายยาเสพติดทางโลกโซเชียลให้มีประสิทธิภาพ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. (ปส.)ได้วางยุทธศาสตร์หลักด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดไว้ดังนี้
1. การปราบปรามเชิงรุก มีการบูรณาการหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจร่วมระหว่างกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.), กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.), ฝ่ายทหาร, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.), สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดนานาชาติ เพื่อเสริมสร้างพลังในการปราบปรามที่แข็งแกร่งและครอบคลุม มีระบบในการตรวจสอบเครือข่ายค้ายาฯอย่างเป็นรูปธรรม มีเทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลและการติดตามเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง บังคับใช้กฎหมายฟอกเงิน เพื่อสกัดกั้นเส้นทางการเงินของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ผ่านการบังคับใช้กฎหมายฟอกเงินอย่างเข้มงวด ตัดทรัพยากรทางการเงินของอาชญากร
2. การป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกัน มีการให้ความรู้เรื่องโทษภัยยาเสพติด ทำงานร่วมกับโรงเรียน ชุมชน และครอบครัว จัดโครงการให้ความรู้ แก่เยาวชนและประชาชน เพื่อสร้างความตระหนักและป้องกันการเกิดผู้เสพรายใหม่ รวมถึงให้จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังชุมชน เพื่อรายงานความเสี่ยงแบบเรียลไทม์ และสร้างเครือข่ายการป้องกันที่เข้มแข็งในระดับชุมชน
3. การบำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด โดยร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข จัดระบบบำบัดทั้งภาคสมัครใจและภาคบังคับให้เพียงพอต่อผู้ที่ต้องเข้ารับการบำบัด รวมถึงสนับสนุนอาชีพหลังการบำบัด จัดหาโอกาสการทำงานและการฝึกอบรมทักษะอาชีพ เพื่อป้องกันการหวนกลับไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก และช่วยให้กลับเข้าสู่สังคมได้อย่างมีศักดิ์ศรี
4. การมีส่วนร่วมของประชาชนและเทคโนโลยี จัดตสายด่วนร้องเรียนยาเสพติดและแอปพลิเคชันแจ้งเบาะแสออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและสะดวกรวดเร็ว และจัดให้ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยง โดยมุ่งเน้นให้มีการสื่อสารกับสื่อทุกแขนง ในทั้งสองทาง โดยให้มีความชัดเจน รวดเร็วในการปฏิบัติ

ภายใต้คำจำกัดความว่า “ทำกรุงเทพฯให้ปลอดภัยจากยาเสพติด”