นนทบุรี พ.ต.ต.ปืนโหด คว้าปืนยิงขมับเมียดับ จับได้เมียนอกใจ ก่อนลั่นไกฆ่าตัวตายตาม
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 6 ต.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางกรวย ได้รับแจ้งเหตุ 2 สามี-ภรรยา ถูกยิงด้วยอาวุธปืน (ไม่ทราบขนาด) เสียชีวิตอยู่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูรีบรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น ปลูกติดกันหลายหลัง ภายในบ้านหลังหนึ่ง (หลังมุม) พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.รัตน์ฐาภัทร ณปภัชณัฐธเดชน์ อายุ 30 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ ใส่เสื้อกล้ามสีดำด้านใน สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม-น้ำตาลด้านนอก ใส่กางเกงขายาวสีขาว พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนบริเวณขมับด้านซ้ายทะลุออกขมับด้านขวา กระสุนทะลุกระจกมาที่เสาไฟฟ้าหน้าบ้าน เสียชีวิตจมกองเลือด ใกล้กันพบผู้เสียชีวิตเป็นชายอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ พ.ต.ต.วงศธร แต่งตั้ง อายุ 32 ปี ตำแหน่ง สว.(สอบสวน) สน.ตลาดพลู (นรต. รุ่น 69) ใส่เสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงิน สวมกางเกงขายาวสีเทา พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนบริเวณขมับด้านขวา มีเลือดออกที่ปาก และหูด้านซ้าย ที่มือขวาถืออาวุธปืน ขนาด Glock 19 ซึ่งอยู่ในสภาพสไลด์ค้างหลัง รังเพลิงว่าง ไม่มีลูกกระสุน แต่ภายในแม็กกาซีนยังมีลูกกระสุน ขนาด 9 มม. อยู่ 12 นัด เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุได้ยิงอาวุธปืนจนหมดแม็กก่อนหน้าและกำลังจะเปลี่ยนแม็กใหม่ โดยทั้ง 2 ราย นั่งเสียชีวิตอยู่บนโซฟา คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วมากกว่า 10-12 ชั่วโมง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นสามี-ภรรยากัน และบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเช่า ทางเจ้าของบ้านจะมาเก็บค่าเช่าเนื่องจากผู้เช่าค้างค่าเช่า 2 เดือน จำนวน 50,000 บาท (ค่าเช่าเดือนละ 25,000 บาท) ก่อนจะมาพบร่างของผู้เช่าเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน นอกจากนี้ยังพบว่าภายในบ้านมีเอกสารการหย่าร้าง และเอกสารการฟ้องหย่า โดยพ.ต.ต.วงศธรฯ (ผู้ก่อเหตุ) ซึ่งเป็นสามีได้ฟ้องหย่าน.ส.รัตน์ฐาภัทรฯ ซึ่งเป็นภรรยา หลังจับได้ว่าฝ่ายหญิงมีชู้ คาดเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ทั้ง 2 ราย มีปากเสียงกันก่อนเกิดเหตุสลดดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รองผบช.ภาค 1 และ พ.ต.ท.สมมาตร วงษ์ดี รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ตลาดพลู ผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.ต.วงศธร แต่งตั้ง ตำแหน่ง สว.(สอบสวน) สน.ตลาดพลู ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุด้วย
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ข้อมูลว่า ทั้ง 2 ราย เป็นสามี-ภรรยากัน ทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อย ระแคะระคายเรื่องฝ่ายหญิงมีชู้ และฝ่ายชายเคยมาปรึกษาผู้บังคับบัญชาเรื่องการหย่าร้าง ก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงได้นำยายและหลานอีก 2 คน มาอยู่ด้วยก่อนจะส่งกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เพราะเกรงว่าจะมีอันตรายไปด้วยหากเกิดมีปากเสียงกับฝ่ายชาย โดยญาติฝ่ายหญิงได้บอกว่าทำใจแล้ว เพราะทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันเรื่อยมา เบื้องต้นทางผู้บังคับบัญชาก็ไม่ทราบว่าทั้งคู่ได้มีการหย่าร้างกันแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป