จับลูกชาย ทาสยาลักแหวนทองซื้อยาบ้าเสพ ด้าน เลขา ฯ ป.ป.ส. สั่ง
บุกชาร์จถึงบ้าน คืนความปลอดภัยให้ประชาชน
วันที่ 6 ตุลาคม 2568 พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยถึงการดำเนินงานเชิงรุกเพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหายาเสพติด โดยย้ำว่า “ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ สำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้จัดตั้งปฏิบัติการ “1386 ท่านแจ้ง เราจับ” เพื่อเป็นช่องทางรับเรื่องร้องเรียนและเข้าดำเนินการแก้ไขทุกปัญหายาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในสังคมอย่างทันท่วงที
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2568 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากครอบครัวผู้เดือดร้อนในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ว่านายองุ่น (สงวนนามสกุล) มีพฤติการณ์ลักทรัพย์สินในบ้านไปขายเพื่อซื้อยาเสพติดและสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัว ตนจึงได้สั่งการให้สำนักงาน ปปส.ภาค 4 เข้าช่วยเหลือทันที
จากนั้น นายพงศ์ศิริ ชื่นบาน ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบทรัพย์สิน นำทีมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุวรรณคูหา และฝ่ายปกครอง เข้าปฏิบัติการ ณ บ้านเลขที่ 188 หมู่ 10 ตำบลนาดี อำเภอสุวรรณคูหา
ผลการเข้าตรวจสอบ พบนายองุ่นฯ มีผลตรวจปัสสาวะเป็นบวก และเมื่อตรวจสอบประวัติที่ผ่านมา พบว่า เคยถูกจับกุมมาแล้ว 1 ครั้้ง และเข้ารับการบำบัดตามกระบวนการยุติธรรม 1 ครั้ง ประกอบการให้ข้อมูลจากมารดาถึงประวัติที่ผ่านมา ทราบว่านายองุ่นฯ พ้นโทษคดียาเสพติดมาแล้ว 2 เดือน ไม่ได้ประกอบอาชีพใด ต่อมาได้นำรถจักรยานยนต์และแหวนทองคำของตนไปขาย สร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวอย่างมาก
ปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) และได้ตรวจค้นพบเงินสด 13,000 บาท ซึ่งผู้ต้องหารับว่าเป็นเงินที่เหลือจากการนำแหวนทองของมารดาไปขาย จึงได้ส่งมอบคืนให้กับมารดาเป็นที่เรียบร้อย สร้างความโล่งใจ บรรเทาความเดือดร้อน พร้อมคืนความปลอดภัยให้แก่ครอบครัว
ทั้งนี้ กรณีนายองุ่นฯ ไม่ประสงค์เข้ารับการบำบัดโดยสมัครใจนั้น จึงถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า จากข้อมูลที่ได้รับจากผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ซึ่งระบุว่ายังมีเป้าหมายผู้เสพและผู้ค้ารายย่อยที่ต้องดำเนินการต่อ ได้กำชับให้หน่วยงานในพื้นที่ทำงานร่วมกับผู้นำชุมชนอย่างใกล้ชิด เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายที่เหลือ พร้อมทั้งเร่งเสริมสร้างกระบวนการชุมชนให้เข้มแข็งเพื่อการเฝ้าระวังที่ยั่งยืน
พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำว่า “สายด่วน ป.ป.ส. โทร 1386 จะเป็นที่พึ่งทุกปัญหายาเสพติดเป็นเครื่องมือสำคัญที่ประชาชนจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่ปลอดภัย ข้อมูลของท่านจะถูกเก็บเป็นความลับ ขอให้เชื่อมั่นในปฏิบัติการ ‘ท่านแจ้ง เราจับ’ เพราะเราจะเปลี่ยนความเดือดร้อนของท่านให้เป็นความปลอดภัย”
#ปปส #สำนักงานปปส #oncb #1386ท่านแจ้งเราจับ #1386ที่พึ่งทุกปัญหายาเสพติด #กระทรวงยุติธรรม #หนองบัวลำภู