สาวมหาลัยปี 2 ถูกโรคจิตลวนลามบนรถตู้โดยสารขณะไปเรียน
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปเตือนภัยสังคม ขณะสาวนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 2 ถูกชายอายุประมาณ 40 ปีลวนลามบนรถตู้โดยสารระหว่างเดินทางไปเรียน โดยหลังจากคลิปถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้ใช้โซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก รวมถึงมีผู้หญิงที่เคยตกเป็นเหยื่อชายรายนี้ติดต่อมาให้ข้อมูลกับผู้เสียหาย ว่าเคยถูกก่อเหตุลักษณะเดียวกัน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.ย.68 น.ส.ฟ้า (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ( ผู้เสียหาย ) เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.30 น. ขณะตนเดินทางไปมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยขึ้นรถตู้โดยสารจากหน้าหมู่บ้านย่านไทรน้อย ซึ่งที่ป้ายรถมีชายอายุประมาณ 40 ปี นั่งรออยู่ด้วย เมื่อขึ้นรถตนเลือกนั่งเบาะแถวหลังสุดตรงกลาง ด้านซ้ายมีผู้หญิงวัยกลางคนนั่งอยู่ ส่วนด้านขวามีชายคนดังกล่าวที่ขึ้นมาด้วยนั่งติดกัน
ระหว่างที่รถวิ่งบนถนนงามวงศ์วาน ก่อนถึงซอยงามวงศ์วาน 9 ชายคนดังกล่าวใช้หลังมือซ้ายลูบที่ต้นขาขวาของตน ตอนแรกพยายามตั้งสติจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแอบถ่ายคลิปไว้ จากนั้นชายคนนี้เริ่มพยายามถกกระโปรงขึ้น ทำให้ตกใจและรู้ทันทีว่ากำลังถูกลวนลาม จึงโวยวายขึ้นมาว่า “จะเอามือมาถูขาหนูทำไม โรคจิต” แต่ชายกลับปฏิเสธว่า “ไม่ได้ทำ พี่หลับอยู่” พร้อมทำท่านั่งหลับต่อ ตนจึงโต้กลับว่าเห็นอยู่กับตาชัดเจน กระทั่งรถวิ่งถึงซอยงามวงศ์วาน 9 ชายคนดังกล่าวรีบลงจากรถไป หลังเกิดเหตุตนจึงย้ายไปนั่งที่อื่นทันที
น.ส.ฟ้า เล่าต่อว่า ระหว่างโต้เถียงกันไม่มีผู้โดยสารหรือคนขับเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้รู้สึกตกใจและกลัวมาก อีกทั้งยังเป็นเหตุการณ์ซ้ำรอย เพราะก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อนตนก็เคยถูกลวนลามลักษณะเดียวกันมาแล้วแต่ไม่กล้าพูด จึงอยากนำเรื่องนี้มาเตือนภัยให้ผู้หญิงระมัดระวัง หากเจอเหตุการณ์แบบนี้ควรรีบตะโกนขอความช่วยเหลือทันที
ด้านนางฝน (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี มารดาของผู้เสียหาย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุลูกสาวได้ส่งคลิปมาในไลน์ครอบครัว เมื่อเปิดดูพบว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้หลับตามที่อ้าง จึงรู้สึกโกรธและตกใจ อีกทั้งไม่มีใครในรถหรือโชเฟอร์เข้ามาช่วยเหลือ ครอบครัวจึงตัดสินใจโพสต์คลิปลงในกลุ่มข่าวสารท้องถิ่นไทรน้อยเพื่อเตือนภัย ปรากฏว่ามีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเคยเป็นเหยื่อชายคนเดียวกันเมื่อ 2 ปีก่อน ทำให้มั่นใจว่าชายรายนี้มีพฤติกรรมผิดปกติ เป็นภัยสังคม
ครอบครัวจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ไทรน้อย แต่ตำรวจแจ้งว่าพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.รัตนาธิเบศร์ จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และให้ไปแจ้งความต่อที่ สภ.รัตนาธิเบศร์
ต่อมาหลังโพสต์คลิปไม่นาน นางฝนได้รับข้อความและสายโทรศัพท์ทาง Messenger จากชายใส่แว่นดำ อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุ โดยขอให้ลบคลิปออกจากโซเชียล พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้ลวนลามลูกสาว แต่อ้างว่าตนเองต่างหากที่เป็นผู้เสียหายเพราะถูกเผยแพร่คลิปออกไป ระหว่างการพูดคุยชายดังกล่าวพูดขอโทษเพียงครั้งเดียว ทำให้ครอบครัวรู้สึกหวาดกลัวว่าจะถูกดำเนินคดี จึงตัดสินใจลบคลิปออก
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวผู้เสียหายยืนยันว่าจะไม่ยอมความ และจะเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดชายรายนี้ต่อที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ไปก่อเหตุซ้ำกับหญิงสาวรายอื่นอีก
