ล่าตัวทันควัน 3 วันรู้เรื่อง สิ้นฤทธิ์มือปืนโหดจ่อยิงครูพละดับ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา
ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบกป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป,
พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.อภิมัณฑ์ บานชื่น รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร รอง ผกก.3 บก.ป. และพ.ต.ท.ศิษฏ์ พูลวงศ์ รอง ผกก.3 บก.ป. และ กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.)
พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ธัช โพธิ์สุวรรณ ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง ผกก.1 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.เอกสิทธิ์ อินทร์โท่โล่ สว.กก.3 บก.ป., พ.ต.ท.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สวญ.ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล, พ.ต.ท.สุวันชัย สีทา สว.สส.สภ.เมืองมหาสารคาม, พ.ต.ท.อมร ชมมาก สว.กก.สืบสวนฯ, ร.ต.อ.วัตรสัณห์ เนตรหาญ รอง สว.กก.3 บก.ป.,ร.ต.อ.ปรัชญานนท์ ยงยิ่ง รอง สว.ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล., ร.ต.ท.วิทยา สุทธิปัญโญ รอง สว.กก.3 บก.ป., พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป., สว.ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล., กก.สส.สภ.เมืองมหาสารคาม, สภ.เมืองมหาสารคาม, กก.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์
ร่วมกันจับกุม นายพิชัยฯ อายุ 41 ปี จับตามศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ.412/2568 ลง 27 ส.ค.68 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยิงปืนโดยใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมืองหมู่บ้าน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้าน หมู่ 4 ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
จากกรณีที่เป็นข่าวดัง เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เกิดเหตุอุจฉกรรจ์กลางชุมชนเมืองมหาสารคาม ครูพละโรงเรียนแห่งหนึ่งถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อยิง 3 นัดซ้อนต่อหน้าเพื่อนบ้าน สร้างความสะเทือนขวัญไปทั้งพื้นที่ ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
ผู้เสียชีวิตคือ นายสุพจน์ฯ อายุ 46 ปี ครูสอนพลศึกษา ถูกยิงเข้าราวนม สะโพก และขา ขณะอยู่ที่บ้านพักย่านถนนถีนานนท์ อ.เมืองมหาสารคาม
โดยพยานเล่าว่าเวลาประมาณ 19.00 น. มีชายขับรถยนต์มาจอดหน้าบ้าน ก่อนตะโกนเรียกผู้ตายออกมาพูดคุยกันไม่กี่อึดใจ กระทั่งชักปืนจ่อยิงเสียงดังสนั่น 3 นัดติด แล้วหลบหนีไปอย่างอุกอาจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมทีมสืบสวนทันที จนกระทั่งพบผู้ก่อเหตุคือ นายพิชัยฯ อายุ 47 ปี อดีตเพื่อนบ้านคนสนิทของผู้ตาย เบื้องหลังคดีชวนสลดครั้งนี้ ถูกโยงกับปมหึงหวงภรรยาเก่าของนายพิชัยฯ
ที่ผู้ตายเคยเข้าไปช่วยเหลือจนผู้ก่อเหตุไม่พอใจสะสม
คดีนี้ถูกจัดเป็นคดีอุจฉกรรจ์ ชุดสืบสวน กก.3 บก.ป. ประสานกำลังร่วมกับตำรวจทางหลวงสระบุรี ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล., กก.สส.จว.มหาสารคาม, สภ.เมืองมหาสารคาม และ กก.สส.จว.บุรีรัมย์ เร่งไล่ล่าติดตามตัวผู้ต้องหาอย่างเร่งด่วน
จากการสืบสวนเชิงลึก พบว่านายพิชัยฯ ผู้ต้องหา เคยมีประวัติอาละวาดและใช้ปืนข่มขู่ภรรยาเก่ามาแล้วเมื่อ 3 เดือนก่อน กระทั่งครั้งนี้ตัดสินใจก่อเหตุสะเทือนขวัญ ปลิดชีพเพื่อนบ้านที่ตนเคยสนิท หลังลงมือได้ขับรถหลบหนีข้ามหลายจังหวัด จนไปกบดานอยู่ที่ หมู่ 4 ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
ต่อมาตำรวจกองปราบ ร่วมกับตำรวจทางหลวง และชุดสืบสวนหลายหน่วย บุกปิดล้อมบ้านพัก ก่อนรวบตัวนายพิชัยได้คาหน้าบ้าน โดยเจ้าตัวไม่ขัดขืน ตรวจสอบยืนยันตัวตรงตามหมายจับ
นายพิชัยฯ สารภาพว่าก่อเหตุเพราะถูกผู้ตายพูดจาดูถูกเหยียดหยามมาหลายครั้ง วันเกิดเหตุทนไม่ไหว ชักปืนขึ้นมาขู่แต่กลับถูกด่าซ้ำ เลยลั่นไกทันที 3 นัด พร้อมรับว่าตนมีทักษะการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างดี เพราะหัดยิงมากว่า 18 ปี ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
เตือนภัย เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิงครูพละเสียชีวิตกลางชุมชนเมืองมหาสารคาม กำลังกลายเป็นอุทาหรณ์สะเทือนใจที่สังคมต้องจับตามอง ความขัดแย้งส่วนตัวที่ถูกปล่อยให้บานปลายจนถึงขั้นใช้ความรุนแรง ได้สร้างความสูญเสียอย่างไม่อาจย้อนคืน และสะท้อนให้เห็นถึงอันตรายที่ประชาชนทุกคนไม่ควรมองข้าม
คดีนี้เป็นเครื่องเตือนว่า ความหึงหวง ความโกรธ และการขาดสติ สามารถนำไปสู่เหตุอาชญากรรมได้ในพริบตา ประชาชนจึงควรเพิ่มความระมัดระวังรอบตัว หากพบเห็นเหตุทะเลาะวิวาทหรือบุคคลที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายซ้ำอีก ในสังคมที่ยังคงมีความรุนแรงแฝงอยู่
การช่วยกันเฝ้าระวังและไม่ปล่อยให้ปัญหาส่วนตัวกลายเป็นโศกนาฏกรรม คือสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องตระหนัก เพื่อปกป้องทั้งชีวิตของตนเอง ครอบครัว และคนรอบข้างให้ปลอดภัย
