นนทบุรี คลิป ตำรวจรวบเสี่ยกำมะลอ ตระเวนหลอกทรัพย์โชเฟอร์แท็กซี่ผู้เสียหายเกือบร้อยคัน
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 21 ส.ค. 68 พ.ต.อ.วุฒิชัย สุคนธวิท ผกก สภ.ชัยพฤกษ์, พ.ต.ท.อัครเดช จายะวานิช รอง ผกก.สส.สภ.ชัยพฤกษ์, พ.ต.ท.ฉัฐวัฒน์ สิริเบญจศักดิ์ สว.สส.สภ.ชัยพฤกษ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ ได้ร่วมกันจับกุม นายประพันธ์ หรืออ้วน แช่อือ อายุ 50 ปี ที่อยู่ 162 หมู่ 17 ต.หนองสองห้อง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ จับกุมได้ที่บริเวณชุมชนซอยมังกร ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ พร้อมทั้งตรวจยึดสิ่งของที่ได้มาจากการก่อเหตุหลายรายการ จากการขยายผล นายประพันธ์ หรืออ้วน ให้การรับว่า ตนได้ก่อเหตุจริงโดยแต่
ละวันที่ตนก่อเหตุมีผู้เสียหาย ไม่ต่ำกว่า 1-2 รายต่อวัน โดยวิธีที่ตนก่อเหตุนั้น ตนจะออกจากบ้าน นั่งรถเมล์หรือรถสองแถว ออกห่างจากชุมชนที่ตนพักอาศัย และจะเรียกแท็กซี่ จากนั้นเริ่มชวนคุย ชักชวน หลอกว่าตัวเองเป็นเสี่ยโรงงานต่างๆ จะหาจ้างงานประจำวิ่งรถรับ-ส่ง เพื่อให้ผู้เสียหายเคลิ้มตามและมีความหวังจะมีรายได้ประจำ จากนั้นหลอกเอาบัตร ATM ของผู้เสียหายจากราย อื่นๆมาบอกว่าเป็นบัตรของตน มาหลอกผู้เสียหายให้ไปกดเงิน อ้างว่ามีเงินอยู่หลายแสน จะวานไปกดเงินแต่ผู้เสียหายต้องนำทรัพย์สินต่างๆมาประกันไว้ ทั้งหลอกถามรหัสโทรศัพท์ รหัสเข้าแอปธนาคาร จากนั้นเมื่อได้โอกาสจึงได้ลักทรัพย์ของผู้เสียหายไป ได้เงิน สร้อยคอทองคำ บางครั้งก็นำมือถือของผู้เสียหายไปกดเงินออกจากธนาคาร ซึ่งได้ก่อเหตุมาแล้วมากกว่าร้อยราย และยังก่อเหตุในเขตพื้นที่ สภ.ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และ พื้นที่ต่างๆ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เจ้าพนักงานตำรวจฝ่านสืบสวน ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวนสภ.ชัยพฤกษ์ว่า มีเหตุผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความซึ่งเป็นผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่โดยสารรับจ้างหลาย 10 ราย ถูกนายอ้วนฯเป็นผู้โดยสาร หลอกว่าตนเองเป็นเสี่ย จะจ้างงานประจำให้รายวัน และหลอกให้ไปกดเงินโดยหลอกให้ผู้เสียหายยื่นของมีค่ามาประกันไว้ก่อน จากนั้นได้ถือโอกาสลักทรัพย์เอาทรัพย์สินของ ผู้เสียหายไป และหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 68 เวลาประมาณ 09.30 น. สถานที่เกิดเหตุ ริมถนนหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว ลูกชิ้นปลาเฮียสุ ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีผู้เสียหายถูกนายอ้วนขโมยทรัพย์สินไป มี 1.สร้อยพระติดแหวนทองคำ จำนวน 1 เส้น มูลค่าประมาณ 30,000 บาท ถัดมาวันที่ 18 ก.ค. 68 เวลาประมาณ 08.00 น. บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.คริสตัล ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความถูกนายอ้วนขโมยทรัพย์สิน คือ 1.สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง มูลค่าประมาณ 25,000 บาท 2.แหวนทองคำ น้ำหนัก 1 สลึง มูลค่าประมาณ 12,000 บาท 3.บัตรกดเงินสด ATM ธนาคารกรุงไทย ถูกกดเงินไป จำนวน 10,600 บาท ในวันเดียวกัน วันที่ 18 ส.ค. 68 เวลาประมาณ 09.30 น. สถานที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนตรงข้าม ห้างโรบินสันไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีผู้เสียหายถูกขโมยทรัพย์สิน คือ 1. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง พร้อมซิมหมายเลขโทรศัพท์ จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ ได้ทำการสืบสวนขยายผล ตรวจสอบประวัติพบว่า นายประพันธ์ หรืออ้วน มีหมายจับ จำนวน 3 หมาย 1. หมายจับศาลอาญา ที่ 703/2568 ข้อหา “ชิงทรัพย์ โดยกระทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหน้าจำหน้าได้โดยมีอาวุธ, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร”
2.หมายจับศาลแขวงดอนเมือง ที่ จ.18/2568 ข้อหา “ลักทรัพย์”
3.หมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.587/2568 ข้อหา “ลักทรัพย์ (ใช้กลอุบาย) โดยการมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้”
จากการสอบถาม นายพลเฉลิม อ่อนสำลี อายุ 61 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ (ผู้เสียหาย) สีเหลือง หมายเลขทะเบียน ทฬ 4665 กทม. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา คนร้ายเรียกรถตนแถวสุขสวัสดิ์ให้ไปส่งแถวศรีนครินทร์ ขอนั่งด้านหน้า และบอกให้ตนไปเอาของที่ร้านอะไหล่เครื่องเสียง ก่อนจะขอลงจากรถระหว่างทาง ให้ตนเอาโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พระเครื่อง 9 องค์ที่คล้องเชือกในคอ รวมถึงรูปพ่อแม่ค้ำไว้ก่อนไปเอาของและให้ย้อนกลับมารับ พอกลับมาก็ไม่เจอคนร้ายแล้ว ซึ่งตนก็รู้สึกงง ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ หลังก่อเหตุคนร้ายได้เอาโทรศัพท์มือถือของตนโทรหาลูกแล้วบอกว่าตนรถชนให้โอนเงินมาหน่อย แต่ลูกรู้สึกแปลกๆใจจึงไม่โอนเงินไปและพยายามติดต่อหาตน วันนี้พอรู้ว่าตำรวจจับได้จึงรีบมาดู ตนเจอคนร้ายและถามว่า “จำหน้าได้มั้ย” มันบอกว่าจำได้ พอถามว่าเอาของไปไหนคนร้ายไม่ตอบ ลูกตนก็เป็นห่วงไม่ให้ขับรถอีก ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชัยพฤกษ์ ที่ช่วยตามจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว มารสังคมจะได้หมดไป ตนเป็นสมาชิกของ สวพ.91 เมื่อเช้าก็ได้มีการแจ้งเบาะแสไปเพื่อให้เพื่อนๆชาวแท็กซี่เข้ามาชี้ตัว ตกใจมากพอมาถึงสภ.ชัยพฤกษ์ แล้วเจอผู้เสียหายประมาณ 30 กว่าคน ตำรวจบอกว่าคนร้ายก่อเหตุมานานกว่า 3 ปีแล้ว และตามจับอยู่
ทางด้าน นายสมชัย ภิณโญโสภณ อายุ 67 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ (ผู้เสียหาย) สีเขียว-เหลือง หมายเลขทะเบียน 1 มข 8303 กทม. กล่าวว่า เหตุเกิดประมาณวันที่ 17 ก.ค. 68 คนร้ายเรียกรถตนแถวสี่แยกพรานนก บอกมีบัตรเอทีเอ็ม ในบัตรมีเงินอยู่ 800,000 บาท จะให้ตนไปแวะกดให้ แต่ขอลงกลางทางเพื่อซื้อของก่อน ให้ตนขับรถไปกดเงินให้มีคนใส่กระโปรงสีแดงรออยู่และพาไปกดเงินครั้งละ 20,000 บาท จำนวน 2 ครั้ง ระหว่างนั้นคนร้ายได้ขอของมีค่าที่ตนเอาค้ำไว้ ซึ่งตนพยายามขอคืนแต่คนร้ายไม่ให้บอกว่าเดี๋ยวค่อยกลับมาเอาก็ได้ ทรัพย์สินของตนมีหลวงพ่อโสธรเลี่ยมทอง 1 องค์ และแหวนเพชรของเตี่ย มูลค่าประมาณ 150,000 บาท พอตนไปถึงจุดที่คนร้ายบอกกลับไม่เจอใครจึงวนรถกลับมาดูคนร้ายก็หายไปแล้วจึงรู้ว่าถูกหลอก
เมื่อเช้าตำรวจที่สน.ตลิ่งชัน โทรมาบอกตนจึงรีบขับรถมาดู ตนดีใจมาก เมื่อวานเพิ่งบนครุฑที่คล้องคออยู่ว่าให้ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้ ตนอยากได้ของคืนเพราะมีคุณค่าทางจิตใจ หลังเกิดเหตุตนได้ไปที่โรงพัก เกือบทุกวันพบว่ามีผู้เสียหายทยอยเดินทางมาแจ้งความกันมากขึ้น คนร้ายมันแสบมาก ดีใจที่วันนี้ตำรวจจับตัวคนร้ายได้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะยังได้ของคืนอยู่หรือไม่ ถ้ามีตั๋วจำนำอยู่เอามาให้ตนได้เดี๋ยวไปไถ่ออกเอง ตนเสียใจมากและไม่กล้าบอกลูกหลาน รู้สึกอาย กลัวจะมีคนต่อว่าว่าทำไมตนถึงโง่ขนาดนี้ ตนเพิ่งขับแท็กซี่ได้ไม่นานเพราะอยู่บ้านเฉยๆและรู้สึกเบื่อ ลูกๆเรียนจบกันหมดแล้ว ตั้งแต่ขับรถแท็กซี่มาตนเคยเจอคนเร่ร่อนเรียก รู้ว่าไม่มีเงินให้แต่ก็ใจดีไปส่ง ถือว่าสงสาร เมตตาพาไป ได้บุญด้วย ไม่คิดจะมาเจอแบบนี้ อยากฝากเตือนภัยสังคมว่าอย่าไว้ใจใครง่ายๆ











