ปคม.รวบเจ๊ติมระยอง แม่เล้า
ลวงเด็กสิบสามค้ากามผ่านโซเชียล รับทำมาแล้วหลายครั้ง
27 ส.ค.65 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม., พ.ต.อ.จิรเดช พระสว่าง, พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ, พ.ต.อ. สุรพงศ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.ณัฎฐ์ สุวรรณวัฒนะ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม., พ.ต.ท.เกียรติก้อง ทองคำ และ พ.ต.ท.พระเนียง พรมมี รอง ผกก.2 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ศิษฏ์ พูลวงศ์ สว.กก.2 บก.ปคม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ปคม.
ร่วมกันจับกุมผู้ถูกจับ น.ส.ขวัญสิริ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี
โดยกล่าวหาว่า “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยกระทำแก่บุคคลไม่อายุเกินสิบห้าปี และได้กระทำความผิดตามที่ตกลงกันไว้, ร่วมกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม โดยกระทำแก่บุคคลอายุยังไม่เกินสิบห้าปี, ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำหารค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอม ก็ตาม และไม่ว่าประทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร โดยเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี, ร่วมกันกระทำด้วยประการใดๆ โดยการช่วยเหลือ ให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่นรับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณี และจัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ให้บริการ, ร่วมกันชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด และร่วมกันใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด” ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1757/2565 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2565
และโดยกล่าวหาว่า “ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยกระทำ แก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปี, เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือภายนอกราชอาณาจักรซึ่งประทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้น จะยินยอมก็ตาม ซึ่งเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี, พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย, กระทำด้วยประการใดๆ โดยการช่วยเหลือ ให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณี ของผู้อื่น รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีซึ่งผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณีและจัดให้มี การค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ให้บริการ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตน ไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด และใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอม หรือยินยอมให้เด็กกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือ เพื่อการใด” ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1754/2565 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2565
พร้อมยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดคือ
โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อวีโว่ (VIVO) สีฟ้าจำนวน 1 เครื่อง (ใช้ในการติดต่อลูกค้า)
จับกุม/ตรวจยึด บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาเมืองระยอง ถนนตากสินมหาราช ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง
สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2565 จากที่ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง ได้เข้าช่วยเหลือเด็กหญิง ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นเด็กหญิงที่อยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูจากผู้ปกครองรายหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ต่อมาเด็กทั้งสองมีปัญหากับผู้อุปการะเลี้ยงดูจึงหนีออกจากบ้านพัก จนกระทั่งไปถูกกลุ่มผู้ต้องหานี้ล่อล่วง ชักชวนให้ไปขายบริการทางเพศ โดยมี น.ส.ติม หรือขวัญสิริ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหานี้เป็นหัวหน้าแก๊ง ร่วมกับเยาวชนอีกคน ร่วมกันเป็นเอเย่นต์ นายหน้า ขายบริการทางเพศเด็กทั้งสองทางช่องทางออนไลน์ โดยการโฆษณาหาลูกค้าทางสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งทางทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และกลุ่มไลน์ รวมทั้งลูกค้าที่ตนเคยรู้จักในลักษณะการบอกต่อเป็นคนหาลูกค้าให้
เนื่องจาก ผู้ต้องหามีอาชีพขายบริการทางเพศมาก่อน ถ้าขายบริการทางเพศได้เงิน 1,500 บาท น.ส.ขวัญสิริ หรือติม (ผู้ต้องหา) จะหักไว้ 500 บาท และแบ่งให้เด็กผู้เสียหาย 1,000 บาท โดยเหยื่อทั้งสองคนได้ขายประเวณีตามข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่าคนละ 4-5 ครั้ง ในพื้นที่จังหวัดระยอง โดยพากันไปเปิดโรงแรมม่านรูดพักอาศัยเป็นรายวันและย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ โดยเด็กทั้งสองให้การว่าเงินค่าตัวที่ตนขายบริการมาได้นั้นผู้ต้องหาก็มิได้แบ่งให้ตามสัญญา
โดยอ้างว่าหักเป็นค่าอาหารและค่าเช่าห้อง และชักจูงให้ผู้เสียหายทั้งสอง เสพยาเสพติดด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กจึงได้ติดตามช่วยเหลือเด็กทั้งสองได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดระยอง จึงได้ทำการสอบสวนปากคำผู้เสียหายทั้งสอง และคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ร่วมกับสหวิชาชีพ
พบว่าเป็นผู้เสียหายทั้งสองเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ จึงได้นำตัวผู้เสียหาย ทั้งสองส่งสถานที่คุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ เพื่อเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือและเยียวยา ทางจิตใจแก่ผู้เสียหายทั้งสอง และสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนทราบว่าเอเย่นต์ที่ล่อลวงเด็ก ทั้งสองไปขายบริการทางเพศคือ ผู้ต้องหานี้ จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในข้อหาดังกล่าวข้างต้น
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ขวัญสิริฯ หรือติม อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1757/2565 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2565 และ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1754/2565 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ในฐานความผิดตามหมายจับของศาลอาญาข้างต้น และนำตัว น.ส.ขวัญสิริฯ หรือติม ส่งพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ร่วมขบวนการของ น.ส.ขวัญสิริฯ หรือติม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับต่อไป
ทั้งนี้ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ จะได้ทำการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการคนอื่น และขยายผลดำเนินคดีกับผู้ใช้บริการทางเพศกับเหยื่อ ทุกรายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหาตามหมายจับ และให้การเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ทำงานที่อาบอบนวดแห่งหนึ่ง และเคยขายบริการมาแล้ว จึงได้ผันตัวเองมาเป็นนายหน้ารับงานให้กับเหยื่อ โดยได้ชักชวนเหยื่อผู้เสียหายให้มาพักอาศัยกับตนภายในห้องพักแห่งหนึ่ง และหางานขายบริการทางเพศให้โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งในแต่ละครั้งที่ได้รับงาน ตนเองจะหักค่านายหน้ากับเหยื่อผู้เสียหายที่ขายบริการทางเพศให้กับลูกค้า ครั้งละ 500 บาท ซึ่งรายได้จากส่วนนี้ตนเองได้นำมาเลี้ยงดูครอบครัว โดยตนเองนั้นมีลูกอยู่ 2 คน และทำในลักษณะดังกล่าวนี้มาเรื่อยๆ จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม
เตือนภัย ตำรวจสอบสวนกลางประชาสัมพันธ์ว่าปัจจุบันปัญหาที่สำคัญของการค้ามนุษย์ เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ ขอให้ผู้ปกครอง ครู ช่วยกันดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดทั้งในการใช้ชีวิตตามปกติ และการเล่นสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดี หากพบเบาะแสของการค้ามนุษย์ ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1191