CIB ปฏิบัติการกวาดลานวัด จับพระนอกรีต 163 ราย ดำเนินคดี
สรุปผลการปฏิบัติการกวาดลานวัดเมื่อวานนี้ ควบคุมตัวผู้ต้องหาตามเป้าหมายได้ 163 ราย ส่วนพระ 4 รูปที่ไม่ยอมสึก ล่าสุดทั้งหมดยอมสึกแล้ว ส่วนบรรยากาศที่กองปราบเช้านี้ ตำรวจเข้ามารับตัวผู้ต้องหา กลับไปดำเนินคดีตามหมายจับที่ต่างจังหวัด
วันนี้ (6 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด ค้น 200 จุดทั่วประเทศ ล่าจับพระเป้าหมายที่ทำผิดกฎหมาย 181 ราย และยังมีพระวัดดังเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
เช้าวันนี้ทีมข่าวได้สอบถามไปที่ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือบิ๊กเต่า รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผนว่า ผลปฏิบัติการเมื่อวานนี้สามารถจับกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดได้ 163 เป้าหมาย ซึ่งในจำนวนนี้สามารถจับกุมพระสงฆ์ได้ 153 รูป และในขณะนี้ยังไม่พบตัวอีก 18 เป้าหมาย
นอกจากนี้บิ๊กเต่า ยังบอกอีกว่า เมื่อวานนี้มีพระสงฆ์จำนวน 4 รูป ไม่ยอมลาสิกขา ทางตนเองได้เข้าไปพูดคุย ทำความเข้าใจ และขอร้องจนพระทั้ง 4 รูปนั้น ยอมลาสิกขาในช่วงเย็น
หลังจากนั้น เมื่อวานนี้ทางตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหา มาควบคุมตัวเอาไว้ในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางประมาณ 20 ถึง 30 คน
พร้อมบอกว่าในจำนวนผู้ต้องหา ที่ถูกควบคุมตัวไว้ ส่วนใหญ่จะมีหมายจับอยู่ที่ต่างจังหวัด เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ดังนั้นตำรวจำในพื้นที่ จะต้องเข้ามาควบคุมตัวผู้ต้องหาทุกราย กลับไปดำเนินคดีในท้องที่ตัวเอง
ส่วนบรรยากาศล่าสุดที่ กองบังคับการปราบปราม ซึ่งเป็นจุดที่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาเอาไว้ เช้าวันนี้ตั้งแต่ช่วง 07.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 8 ได้นำตัวผู้ต้องหาจำนวน 4 คน ออกจากห้องควบคุมตัว ที่กองปราบ เพื่อนำไปดำเนินคดีต่อ
โดยผู้สื่อข่าวพยายาม ที่จะสอบถามในประเด็นต่างๆ ซึ่งผู้ต้องหาสามรายแรก ไม่ตอบคำถามใดๆของผู้สื่อข่าว
ส่วนผู้ต้องหารายที่สี่ (เสื้อฟ้า) บอกว่าตนเองถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับ โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เมื่อถามว่าจะกลับไปบวชอีกหรือไม่ ผู้ต้องหารายดังกล่าวตอบว่า “ขอคิดดูก่อน”
ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 4 รายที่ถูกควบคุม เป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับอยู่ในอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดชุมพร มีทั้งคดีเมาแล้วขับ เสพยาเสพติด และค้ายาเสพติด เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวและดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. ตำรวจภูธร ภาค 2 ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายออกจากห้องควบคุมตัว (ใส่ชุดขาวถือย่ามบังกุญแจมือ) โดยเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในจังหวัดชุมพร และจังหวัดปราจีนบุรี
โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้ต้องหารายหนึ่ง เจ้าตัวบอกว่า ถูกดำเนินคดีในข้อหา “เสพยาเสพติด” เป็นหมายจับเมื่อปี 67 ตอนนั้นไม่ยอมไปรายงานตัว
ตั้งแต่ถูกดำเนินคดีก็ยังบวชเป็นพระเหมือนเดิม แล้วก็ยังคงบวชมาเรื่อยๆ จนถึงเมื่อวานนี้ที่ถูกจับกุมตัว ซึ่งเป็นหมายจับเรื่องยาเสพติด
เมื่อถามว่ามีอะไรอยากจะขอโทษสังคมที่ทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมเสียหรือไม่ ผู้ต้องหารายนี้บอกว่า “พูดไม่ออก”
พร้อมบอกว่าตนเองยังอยากกลับบวชเป็นพระเหมือนเดิม เพราะไม่อยากกลับไปเดินในเส้นทางเดิม และสัญญาว่าจะเป็นพระที่ดีกว่าเดิม ส่วนที่ถูกจับกุมตัว เจ้าตัวยอมรับ ไม่ปฏิเสธ











