กลับจากประชุม เผชิญหน้าหนุ่มชิงรถจักรยานยนต์ชาวบ้าน ก่อนเจ้าตัวทิ้งรถกระโดดหนีลงคลอง
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.,
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.
ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7 บก.ทล, พ.ต.ท.ธนาคาร จันทร์กระจ่าง รอง ผกก.7 บก.ทล,
เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย พ.ต.ท.ปิยะพร เรียนสุทธิ์ สว.ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล.
โดยกล่าวหาว่า ชิงทรัพย์
สถานที่เกิดเหตุ ริมถนน สาย 41 หน้าโชว์รูมรถแห่งหนึ่ง ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร
ซึ่งก่อนเกิดเหตุ พ.ต.ท.ปิยะพร เรียนสุทธิ์ สว.ส.ทล.4.กก.7 บก.ทล. (นครศรีธรรมราช)
กลับจากประชุมบริหาร พื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างเดินทางกลับ สถานีตำรวจทางหลวง นครศรีธรรมราช
เมื่อมาถึง ริมถนน สาย 41 หน้าโชว์รูมรถแห่งหนึ่ง ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร พบผู้เสียหาย และพลเมืองดี กำลังช่วยจับคนร้าย พร้อมร้องขอความช่วยเหลือ “ช่วยด้วย ช่วยด้วย โจรชิงรถ” จึงได้ชะลอรถ เห็นพลเมืองดีกำลังจับแขนคนร้าย
แต่คนร้ายได้สะบัดจนหลุด และได้ชิงรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ทะเบียน ชุมพร และกระเป๋าใส่เงินผู้เสียหาย หลบหนีไป พ.ต.ท.ปิยะพร จึงได้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ไล่ติดตาม
และแสดงตัวให้คนร้ายทราบ พร้อมทั้งประสานแจ้งเหตุ พ.ต.ท.ธีรนันท์ ชุมวรฐายี รอง ผกก.สส.สภ.หลังสวน นำกำลังเข้าร่วมติดตาม แต่คนร้ายไม่ยอมหยุดรถ กลับขับรถหลบหนีโดยใช้ความเร็วสูง เข้าไปในซอย ถนนภายในหมู่บ้าน
จนเกือบเกิด อุบัติเหตุหลายครั้ง โดยเส้นทางที่หลบหนีรวมระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร แต่สุดท้าย เมื่อจวนตัวประกอบกับรถเสียหลัก ตกข้างทาง จึงตัดสินใจทิ้งรถและกระเป๋าใส่เงินผู้เสียหาย กระโดดน้ำลงคลองในหมู่บ้าน ว่ายข้ามฝั่งหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดรถจักรยานยนต์ของกลาง พร้อมประเป๋าเงินผู้เสียหาย ส่งคืนผู้เสียหาย ครบตามจำนวน
ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับต่อไป
เบื้องต้นจากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายคือ นายสุวิชัยฯ อายุ 41 ปี เคยก่อคดีในพื้นที่ จ.ชุมพร มาแล้ว 5 ครั้ง และเพิ่งจะพ้นโทษมา โดยคดีมีดังต่อไปนี้
1. ปี พ.ศ.2559 กระทำความผิดฐานกระทำความรุนแรงในครอบครัว
2. ปี พ.ศ.2559 มีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5
3. ปี พ.ศ.2560 ตัวการในข้อหาบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย
4.ปี พ.ศ.2564 ตัวการในข้อหาพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริง หรือการอื่นใด
5. ปี พ.ศ.2564 ตัวการในข้อหาเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้น อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสุข
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด











