รวบโจ๋โหดหนีคดี 12 ปี
ทุบหัวแม่ลูก ปล้นทอง 2 เส้น ที่กระท่อมริมคลองกลางดึก
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม.,
พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ปิยะสมบูรณ์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ รอง ผบก.ปคม.,
พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม.,
พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว รอง ผบก.ปคม.,
พ.ต.อ.รัชภูมิ กุสุมาลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พงศกร โนรี ประจำ (สบ.5) บก.ปคม., พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม., พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ, พ.ต.ท.ทรงวุฒิ ใจดีจริง รอง ผกก. 3 บก.ปคม.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ประเวศน์ แสงพรหม สว.กก.3 บก.ปคม., ร.ต.อ.วุฒิชัย วงศ์คูณ
รอง สว.กก.3 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม.
ร่วมกันจับกุม นายเชษฐมิตรฯ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมหาสารคาม ที่ 11/2556 ลงวันที่ 25 เมษายน 2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์ ความผิดต่อชีวิต พยายามบุกรุก”
สถานที่จับกุม บริเวณบ้านหลังหนึ่งพื้นที่ ต.ห้วยแอ่ง อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม
สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ. 2552 ได้เกิดเหตุปล้นทรัพย์อย่างอุกอาจในพื้นที่ ต.ห้วยแอ่ง
อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเหตุเกิดกลางดึกขณะที่แม่และลูกสาว (ผู้เสียหาย) กำลังหลับนอนอยู่ในกระท่อมปลายนา คนร้ายมีพฤติการณ์อุกอาจได้ร่วมกันบุกขึ้นไปทำร้ายโดยใช้ไม้ตีเข้าที่ศีรษะและร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนกระชากสร้อยคอทองคำ 2 บาท, สร้อยคอทองคำ 1.5 บาท และเงินสด 23,000 บาท
ของทั้งสอง แล้ววิ่งหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม
ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่และสอบปากคำผู้เสียหาย พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อเร่งติดตามตัวนายเชษฐมิตรฯ
ต่อมานายเชษฐมิตรฯ ได้ถูกจับกุม และได้รับการประกันตัว จากนั้นได้หลบหนีอีกครั้ง จนกระทั่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมหาสารคาม ได้ออกหมายจับ ลงวันที่ 25 เมษายน 2556
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนจนทราบว่า นายเชษฐมิตรฯ บุคคลตามหมายจับ ได้แอบกลับมาหา
ภรรยาใน ต.ห้วยแอ่ง แต่คอยระมัดระวังตัวเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้วางกำลังซุ่มดู จนกระทั่ง ได้พบที่บริเวณบ้านที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมซุ่มดูอยู่ ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณคล้ายนายเชษฐมิตรฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัว ซึ่งนายเชษฐมิตรฯ รับว่าเป็นบุคคลตามที่ระบุไว้ในหมายจับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีนี้มาก่อน
เจ้าหน้าที่ชุดจับจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา แจ้งสิทธิตามกฎหมาย จากนั้น นำตัวส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมหาสารคาม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”
