.ปทุมธานี คนร้ายคลุมไอ้โม่งขับกระบะยิงโจ๋ 17 ปีดับกลางถนน
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 พ.ต.ท.อุทัย ทองสาหร่าย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีคนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนนเลียบคลองแอล 1-2 ฝั่งคลอง 2 ท้ายซอยบงกช 50 หมู่ 1 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบจากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อธิเมศร์ ไชยศรัญวิชญ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.กวินเวทย์ วิริยะสิริภักดี รอง ผกก.ป.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รอง ผกก.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.วีระ สุขชนะ สว.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ธนุส วิสุทธาภรณ์ สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 1 และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุเป็นถนนเลียบคลองแอล 1-2 สองข้างทางเป็นป่าหญ้าและทุ่งนาห่างจากบ้านเรือนประชาชนเป็นที่มืดไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง บริเวณกลางถนนเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายทราบชื่อ นายอนันดา หรือรีฟ ทองคำ อายุ 17 ปี บ้านอยู่ท่าอิฐ จ.นนทบุรี สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อคุมสีดำนุ่งกางเกงยีนส์ขายาวรองเท้าผ้าใบสีขาวพบมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดกระสุนเข้าหน้าผาก 1 นัด ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ลีด สีบรอนเทา หมายเลขทะเบียน 8 ขช 4872 กรุงเทพมหานครของผู้ตาย และอีกคันรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ลีด สีดำ หมายเลขทะเบียน 8 ขฐ 2733 กรุงเทพมหานคร ของเพื่อนผู้ตายจอดอยู่และที่เกิดเหตุพบเพื่อนผู้ตาย ชาย-หญิง 3 คน มีนายวรวัฒน์ คลังแสง อายุ 20 ปี และนางสาวลลิตา คงนิยา อายุ 20 ปี และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามนายวรวัฒน์ คลังแสง อายุ 20 ปี ให้การว่า ผู้ตายเป็นน้องที่รู้จักกันบ้านอยู่ท่าอิฐจ.นนทบุรี ทำอาชีพขับโบ๊ทรับจ้าง ผู้ตายก็จะเดินทางมาหาตนเองที่บ้านเป็นประจำและก่อนเกิดเหตุตอนประมาณเที่ยงคืน ได้พากันออกไปหาซื้ออะไรกินกัน โดยผู้ตายเป็นคนขับรถจักรยานยนต์คันสีบรอนเทาทะเบียน 8 ขช 4872 กทม.ตนเองเป็นคนซ้อน ส่วนแฟนสาวตนนางสาวลลิตา คงนิยา นั่งซ้อนไปกับเพื่อนขับตามมาอีกคัน และเมื่อขับรถมาตามเส้นทางถนนเลียบแอล 1-2 ก็ได้มีรถกระบะตู้ทึบคล้ายรถส่งสินค้า สีบรอน ขับแซงรถของพวกตนไป ก่อนที่จะเลี้ยวรถกลับมา ซึ่งพวกตนเห็นท่าไม่ดีก็เลยเลี้ยวรถกลับ จากนั้นรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับมาปาดหน้ารถพวกตน ก่อนที่คนนั่งซ้ายจะเดินมาเปิดประตูตู้ทึบ ซึ่งในนั้นมีผู้ชายอีกประมาณ 7-8 คน ทุกคนสวมผ้าบัฟปิดบังใบหน้าคล้ายไอโม่ง กรูลงมาพร้อมอาวุธมีด แล้วมากระชากเสื้อผมก่อนที่จะใช้มีดจ้วง
แทงแต่ไม่โดน ส่วนคนตายกำได้วิ่งหนี ก่อนที่พวกคนร้ายจะยิงปืนใส่จนเพื่อนล้มลง แล้วพวกคนร้ายวิ่งไปดู ก่อนที่จะพากันขึ้นรถกระบะคันดังกล่าวขับหลบหนีไป ซึ่งคนตายพึ่งออกจากสถานพินิจมาได้ประมาณ 2 เดือน ในข้อหาพยายามฆ่า
ทางด้าน น.ส.ลลิตา คงนิยา อายุ 20 ปี แฟนนายวรวัฒน์ ที่นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์มาอีกคันกล่าวว่า ขับรถมาด้วยกัน 2 คัน โดยออกมาจากบ้านแฟนเพื่อที่จะไปร้านสะดวกซื้อท้ายซอย แต่น้องบอกว่าหิวข้าวก็เลยจะพาน้องไปกิน KFC แล้วก็กำลังจะขี่ไปจังหวะนั้นก็เลยบอกว่าขอกลับไปเอาเสื้อคลุมก่อนพี่หนาว จากนั้นมีกระบะคันดังกล่าวขับมาปาดหน้า แล้วคนที่นั่งข้างคนขับ ได้ลงมาเปิดตู้ทึบแล้วก็มีคนที่ยิงน้องตายที่ใส่ไอ้โม่งโดดลงมาแล้วตะโกนว่า พวกมึงหยุด แล้วหนูก็เลยวิ่งหนี แล้วเห็นแฟนที่ซ้อนท้ายรถคนตายมาวิ่งลงทุ่งนา แต่โดนไล่แทงแต่ไม่เข้า แล้วคนร้ายก็วิ่งไปหาน้องคนตายแล้วก็จ่อยิงเลย เห็นว่ายิงเข้าที่หัวเลย ซึ่งหนูบอกให้หยุดแต่น้องไม่ยอมหยุด โดยคนร้ายมากันประมาณ 7-8 คนได้ โดยหนึ่งในคนร้ายน่าจะเป็นทหาร เพราะการแต่งกายมีเสื้อคุมสีน้ำเงินแล้วเหมือนมีตราของทหารด้วย ใส่กางเกงวอร์มหัวเกรียน
เบื้องต้นทางด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมได้ให้ชุดสืบสวนไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายหลบหนีพร้อมทั้งได้ติดต่อญาติของผู้ตายพร้อมทั้งเชิญตัวเพื่อนผู้ตายที่มาด้วยกันไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก และให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบหาวิธีกระสุนและเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเป็นหลักฐาน ก่อนมอบศพให้ทางมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯเพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง
.











