ปิดคดีดัง 12 ปี! จับครบแก๊ง “พันศักดิ์ นักฆ่าหน้าหยก”
สังหารอำมหิต ฆ่าเผา “ชัยชนะ เสี่ยอ้วน โรงเกลือ”เจ้าของ ฉายา เทพเจ้า 2 แผ่นดิน
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรา (บก.ป.) ภายใต้
การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.,
พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น
รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป.,
พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงค์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก, พ.ต.ท.อภิเดช อธิคมสัญญา, พ.ต.ท.ศรัณย์
ศรีพักตร์, พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.กิตติบดินทร์ กิมเซียะ สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา รอง สว. กก.5 บก., ด.ต.โสภณ เก็งฮะ ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายอำนาจฯ หรือบัวขาวฯ อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระแก้ว
ที่ 275/2556 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2556 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งความตาย, ร่วมกันกักขังหรือหน่วงเหนี่ยว หรือกระทำ
ด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้อื่นโดยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยแต่เครื่องแบบตำรวจ และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
โดยเหตุเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2556 นายพันศักดิ์ฯ กับพวก รวม 7 คน ได้ใช้ยานพาหนะรถยนต์จำนวน 2 กัน คือรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว และรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด สีเทา ตอนเดียว มีลูกกรง สแตนเลสด้านหลัง ขับขี่เพื่อมาจับตัวนายชัยชนะฯ ที่ซอยที่เกิดเหตุ แต่เมื่อมาถึงซอยที่เกิดเหตุ
ปรากฏว่า นายชัยชนะฯ ได้ขับรถออกไปก่อน จึงไม่สามารถจับตัวนายชัยชนะฯ ได้สำเร็จ จากการสืบสวนทราบว่า นายพันศักดิ์ๆ กับพวกได้ร่วมกันนำตัวนายชัยชนะฯ เข้าไปในบ้าน ซึ่งน่าเชื่อว่าได้ร่วมกัน ทำร้ายร่างกายนายชัยชนะฯ จนเสียชีวิต
จากนั้นได้นำร่างของนายชัยชนะฯ ขึ้นรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ แล้วได้ขับรถไปยังบ้านของนายนิคมฯ โดยมีรถยนต์ และรถยนต์เก๋งขี่ยี่ห้อเบนซ์ขับตามไปด้วย เมื่อไปถึงบ้านของนายนิคมฯแล้ว นายนิคมฯ ได้เตรียมยางรถยนต์ไว้จำนวน 3 เส้น แล้วนายชมฯ, นายกฤษฎาศฯ และนายน้อยฯ ได้มาขึ้นรถยนต์ของนายนิคมฯ จากนั้นก็ได้เดินทางไปยังบ้านของนายสมหมายฯ
ต่อมานายสมหมายฯ ได้ขับรถนำไปยังสวนยูคาลิปตัสบ้านคลองมะเคือ ซึ่งเป็นจุดเผาร่างของนาย ชัยชนะฯ เมื่อไปถึงยังจุดเผา นายพันศักดิ์ฯ กับพวกรวม 9 คน ก็ได้ร่วมกับจุดไฟเผาร่างของมายชัยชนะๆ จนเสร็จเเล้ว ได้เดินทางกลับไปยังบ้านของ นายนิคมฯ ส่วนนายสมหมายฯ ได้แยกกลับไปต่างหาก เมื่อไปนิคมฯ นายพันศักดิ์ฯ กับพวกก็ได้ขับรถแยกย้ายกันกลับบ้าน
พฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้ง ว่า นายอำนาจหรือบัวขาวฯ อายุ 51 ปี ผู้ต้องหา ได้ปรากฏตัวอยู่บริเวณสถานที่จับกุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบหาตามที่ได้รับข้อมูล จึงเห็น นายอำนาจฯหรือบัวขาวฯ (ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ชุดจับกุมจึงได้เข้าไปตรวจสอบยังพื้นที่ดังกล่าว พบว่า นายอำนาจฯหรือบัวขาวฯ ปรากฏตัวและยืนอยู่บริเวณหน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง ต.โคกสูง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบถามชื่อ-สกุล มีชื่อนามสกุล เลขประจำตัวประชาชนตรงกับรายละเอียดของผู้ต้องหาในหมายจับดังกล่าวข้างต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับให้ นายอำนาจฯหรือบัวขาวฯ (ผู้ต้องหา) ดู อ่านให้ฟังและอ่านเองแล้ว นายอำนาจฯหรือบัวขาวฯ รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับฉบับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งว่าต้องถูกจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบและแจ้งสิทธิตามกฎหมายข้างต้นให้ทราบ
นายอำนาจฯหรือบัวขาวฯ ช้างหมื่นไวย ได้รับทราบข้อความทราบข้อกล่าวหาพร้อมทั้งเข้าใจสิทธิของตนเองโดยตลอดแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปทำการบันทึกจับกุม
จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
