ตามรวบผู้ต้องหาพยายามฆ่า หลบซ่อนในซากเรือกลางทะเลสาบ

ตามรวบผู้ต้องหาพยายามฆ่า หลบซ่อนในซากเรือกลางทะเลสาบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจน้ำ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.เศรษศิริ นิพภยะ ผบก.รน. พ.ต.อ.ศราวุฒิ ลิจฉวีราช รอง ผบก.รน., พ.ต.อ.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา ผกก.7 บก.รน., พ.ต.ท.ก้องเกียรติ เหมทานน์ รอง ผกก.7 ผบก.รน., พ.ต.ท.นิวัติ เฉ่งไล่ สว.ส.รน.1 กก.7 บก.รน. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.ท.ณัฐดนัย สมานโสร รอง สว.(ทนท.ทางน้ำ) ส.รน.1 กก.7 บก.รน., ด.ต.วันชนะ ปลอดกรรม, ด.ต.นพพร พูลกิจ, ด.ต.กรกฎ นวกะคาม, ด.ต.เทพพิชัย ทองนุ่น, ส.ต.ท.นวพล ไชยชนะ ผบ.หมู่ กก.7 บก.รน. ร่วมกันจับกุม นายศราวุธฯ อายุ 49 ปี ตามหมายจับ ศาลจังหวัดสงขลา ที่ 388/2568 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ,พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ,ยิงปืน ซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน” สถานที่จับกุม บริเวณที่จอดซากเรือ ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา ด้วย ร.ต.อ.สุชาติ สงสม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ได้รับแจ้งเหตุมีการใช้อาวุธปืนยิงกันที่ร้านแห่งหนึ่ง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พบนางสาววันดีฯ อายุ 49 ปี อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา (เจ้าของร้าน) สอบสวนเบื้องต้นทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายศราวุธฯ อายุ 49 ปี มาที่ร้านแล้วได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ยิงนางสาวรัตติยาฯ อดีตภรรยา (ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.สงขลา) แต่กระสุนไม่โดน นางสาวรัตติยาฯ วิ่งหนี ทางนายศราวุธฯ ได้วิ่งไล่ตามจะยิงนางสาวรัตติยาฯ อีก แต่ปืนไม่ลั่น จึงได้ใช้อาวุธปืนตีนางสาวรัดติยาฯ ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ จากนั้นมีคนในที่เกิดเหตุเข้ามาช่วยแย่งปืนจากนายศราวุธฯ ได้ ทางนายศราวุธฯ จึงหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป ในที่เกิดเหตุพบอาวุธพกสั้น จำนวน 1 กระบอก ได้แจ้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจที่เกิดเหตุ และถ่ายภาพ จัดทำแผนที่ไว้ ในที่เกิดเหตุมีการตรวจยึดของกลางประกอบด้วย 1.ลูกปรายกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 13 ลูก 2.ปลอกกระสุนปืนลูกซองสีแดง จำนวน 1 ปลอก 3.กระสุนปืนลูกซองสีเขียว จำนวน 2 นัด 4.ปืนพกลูกซอง จำนวน 1 กระบอก 5.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น MSX125SF สีแดง-ดำ (ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน) จำนวน 1 คัน (รถที่ผู้ต้องหาขับมาก่อเหตุ ยึดจากบ้านผู้ต้องหา) เป็นคดีอาญาที่ 702/2568 ตรวจยึดทรัพย์ของกลางเลขที่ 340/2568 ในความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน โดยมีเหตุอันควร ต่อมา ร.ต.อ.สุชาติ สงสม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้รวบรวบพยานหลักฐานร้องขอต่อ ศาลจังหวัดสงขลา ออกหมายจับนายศราวุธฯ ซึ่งต่อมาศาลจังหวัดสงขลาได้อนุมัติหมายจับดังกล่าว จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันวางแผน และออกสืบสวนหาข่าวคดีดังกล่าว จนกระทั้ง เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมตามรายชื่อข้างต้น ได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่า นายศราวุธฯ ได้ขับเรือหางยาวของพี่ชายหลบหนีไปหลบซ่อนอยู่ที่บริเวณที่จอดซากเรือ ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ และประสานเจ้าพนักงานตำรวจกองบังคับการตำรวจน้ำ(ตำรวจน้ำสงขลา) โดยใช้เรือยางท้องแข็ง รน.89 และเรือตรวจการณ์ รน.52 ร่วมกันเข้าตรวจสอบ เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมเดินทางไปถึงสถานที่จับกุมข้างต้น พบเรือหางยาวจอดอยู่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเรือที่นายศราวุธฯ ใช้ขับหลบหนีมาจอดทิ้งไว้ เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม จึงเข้าตรวจสอบบริเวณซากเรือที่จอดทิ้งไว้ พบตัวนายศราวุธฯ (ผู้ต้องหา) ยืนหลบซ่อนอยู่บริเวณข้างซากเรือ เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม จึงเข้าไปแสดงตัวแสดงบัตรเจ้าพนักงานให้ทราบ และแสดงหมายจับให้นายศราวุธฯ (ผู้ต้องหา) ดูและอ่าน ให้ฟังแล้วรับว่าตนเองเป็นบุคคลเดียวกับในหมายจับ และไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีตามหมายจับนี้มาก่อน จึงแจ้งแก่นายศราวุธฯ ว่าเขาจะต้องถูกจับกุม ในความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน (ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 388/2568 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2568) แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุแห่งการจับและสิทธิ์ของผู้ถูกจับ ให้ทราบ จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับมาที่ทำการชุดปฏิบัติการหมายจับ สภ.เมืองสงขลา จัดทำบันทึกจับกุม จัดทำประวัติ จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้นำตัว นายศราวุธฯ ผู้ถูกจับ/ผู้ถูกควบคุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา จว.สงขลา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป