นนทบุรี คืบหน้า รวบแล้วหนุ่ม รปภ. ต่อยพ่อสมองบวมดับ เปิดปากทั้งน้ำตา อ้างป้องกันตัว โมโหพ่อหยิบเบียร์ที่แช่ไว้ไปกินไม่บอก
จากกรณีเหตุสะเทือนใจที่เกิดขึ้นช่วงค่ำวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา ภายในบ้านพักย่านชุมชนวัดแจ้งศิริสัมพันธ์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี นายอลงกต ลัมสิงห์ อายุ 40 ปี ลูกชายแท้ ๆ ของนายบุญเชิด อายุ 62 ปี อดีตพระเอกลิเกชื่อดัง ก่อเหตุทำร้ายร่างกายบิดาอย่างรุนแรง ทั้งต่อยและเตะหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ผู้ก่อเหตุหลบหนีไปหลังเกิดเหตุ
ล่าสุดวันนี้ (2 ก.ค.68) ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมด้วยชุดสืบสวน สามารถจับกุมตัวนายอลงกต ได้ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ จ.859/2568 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ในข้อหา “ทำร้ายบุพการีเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” โดยจับกุมได้ที่บริษัท รักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้ต้องหาทำงานอยู่
หลังถูกจับกุมนายอลงกต เปิดใจกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตา เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนซื้อเบียร์มา 2 กระป๋อง ตั้งใจดื่มที่บ้านตามปกติ โดยมักจะดื่มเบียร์แล้วเข้านอน ไม่เคยก่อเหตุวุ่นวายกับใคร กระทั่งหยิบเบียร์อีก 1 กระป๋องจากตู้เย็นออกมา พบว่าพ่อนั่งดื่มเบียร์อีก 1 กระป๋องของตนที่แช่ไว้ ตนจึงต่อว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ว่าทำไมพ่อเอาไปดื่มโดยไม่บอก
นายอลงกต อ้างว่า พ่อกลับไม่พอใจ ตะโกนด่าทอและพุ่งเข้ามาจะทำร้าย ตนจึงต้องป้องกันตัว ชกต่อยกันชุลมุน จังหวะที่พ่อล้มลง ต่างคนต่างยื้อกันไปมา สุดท้ายเห็นพ่อเลือดกำเดาไหลและล้มแน่นิ่ง ตนตกใจ รีบโทรเรียกรถพยาบาลมารับตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนจะออกจากบ้านไป กระทั่งทราบข่าวในวันถัดมาว่า พ่อมีอาการสมองบวมและเสียชีวิต ตนจึงติดต่อบริษัทขอมอบตัวให้ตำรวจมารับ ไม่มีเจตนาหลบหนีแต่อย่างใด
นายอลงกต กล่าวอีกว่า ปกติพ่อมักดุด่าตนเป็นประจำ เรื่องดื่มเบียร์บ้าง ดูดกัญชาบ้าง แต่ตนทำงานสุจริต ไม่เคยหาเรื่องใคร ส่วนใหญ่จะเดินหนี ไม่อยากมีปัญหา แต่ครั้งนี้หนีไม่ได้เพราะพ่อเดินเข้ามาจะทำร้าย ตนเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าความขัดแย้งในครอบครัวจะบานปลายถึงขั้นนี้
ตอนนี้ตนไม่มีครอบครัวแล้ว ทุกคนรังเกียจตน มองว่าตนเป็นฆาตกร ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายพ่อ แค่ป้องกันตัว นิสัยส่วนตัวตนจะเป็นคนที่กินเบียร์ สูบกัญชาบ้าง แต่ไม่เคยหาเรื่องใคร ตอนนี้ตนเสียใจมาก เหตุเกิดไปแล้วไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขอะไรได้แล้ว สุดท้ายอยากขอโทษทุกคน ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป











