นนทบุรี หนุ่มเครียดหนัก คุย7ชม.อ้างเป็นผกก.สภ.บึงกาฬ เผยเก็บเงินเตรียมบวช 2แสนหายเกลี้ยง วันที่ 24 มิ.ย.68 เวลา 17.00 น.ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นาย อภิชาติ(นามสมมุติ) อายุ 30 ปี หลังจากเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.68 เวลาประมาณ 09.00 น.ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ทรู จังหวัดบึงกาฬ บอกว่าตนได้ไปซื้อซิมและลงทะเบียนไว้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน จึงจะโอนสายให้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวอ้างตนเป็นถึงระดับผู้กำกับการ สภ.บึงกาฬ และได้มีการวิดีโอคอลคุยในลักษณะข่มขู่ว่าหากไม่ทำตามคนในครอบครัวจะเดือดร้อนและไม่ปลอดภัย และมีการสั่งห้ามไม่ให้ไปไหนห้ามออกจากห้อง ต้องอยู่หน้าจอโทรศัพท์ตลอด โดยใช้เวลาคุยตั้งแต่9โมงจนถึง 5โมงเย็น รวมเวลากว่า 7 ชม. และได้มีการโอนเงินไปทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกจำนวน 144,000 บาท อ้างว่าให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการฟอกเงิน ครั้งที่ 2 จำนวน 25,000 บาท และครั้งที่ 3 จำนวน 3,900 บาท รวมทั้งหมด 172,900 บาท. นาย อภิชาติ(นามสมมุติ) เล่าว่า เหตุการณ์เกิดวันที่ 22 มิ.ย.เวลาประมาณ 09.00 น.ขณะที่ตนกำลังอยู่บ้าน ก็ได้มีคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทรูจังหวัดบึงกาฬโทรมาหาตน บอกว่าตนเคยไปซื่อซิมและได้ลงทะเบียนไว้และบอกว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และจะโอนสายให้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พอคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้บอกให้ตนแอดไลน์ของ สภ.บึงกาฬ โดยบอกให้ตนพิมพ์ผ่านใน ID Line หลังจากนั้นก็ได้มีการวิดีโอคอลมาคุยเป็นระยะๆ โดยสั่งห้ามออกไปไหนและห้ามบอกใครเด็ดขาด และได้ให้ตนเปลี่ยนการวิดีโอคอลผ่านทางโทรศัพท์ ไปวิดีโอคอลผ่านแทปเล็ท ต่อมาได้มีการส่งรูปของผู้หญิงคนนึงมาให้ดูและบัญชีเงินฝากธนาคารที่เป็นชื่อตนมาให้ดู และบอกว่าผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นอดีตผู้จัดการธนาคารและมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า จึงให้ตนถ่ายรูปบัตรประชาชนส่งให้เพื่อทำการตรวจสอบ ที่น่าแปลกใจคือเขารู้ว่าตนมีเงินในบัญชีกี่บาทกี่ธนาคาร และได้บอกให้ตนโอนเงินในบัญชีจำนวน 144,000 บาท เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับการฟอกเงิน ในขณะที่ทำการวิดีโอคอลอยู่นั้นก็มีเสียงผู้หญิงแทรกเข้ามาว่า ชื่อของตนยังมีความเกี่ยวข้องคดีอื่น และได้ให้ตนโอนเงินอีกจำนวน 25,000 บาท เพื่อตรวจสอบ และครั้งสุดท้ายได้บอกให้ตนโอนเงินอีก 3,900 บาท เพื่อตรวจสอบโดยการโอนเงินทั้ง3ครั้ง คนที่อ้างว่าเป็นผกก.สภ.บึงกาฬ บอกว่าการตรวจสอบแบ่งเป็น 3 หน่วยงาน นาย อภิชาติ เล่าอีกว่า ตนใช้เวลาคุยตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 5โมงเย็น ใช้เวลาคุยนานกว่า 7ชั่วโมง โดยก่อนจะวางสายไปทางคนที่อ้างว่าเป็น ผกก.สภ.บึงกาฬ จะให้ตนโอนเงินอีกแต่ตนไม่สามารถโอนให้ได้เพราะบัญชีสุดท้ายเป็นบัญชีคู่ ตนไม่สามารถโอนได้และได้ปฎิเสธและรีบวางสายทันที ตนยอมรับว่าในขณะที่วิดีโอคอลคุยกันมีความวิตกกังวลและหวาดกลัว เพราะทางนั้นเขาแต่งตัวเหมือนตำรวจจริงๆ การพูดคุยก็ดูเหมือนตำรวจจริงๆ แถมยังสั่งห้ามตนไม่ให้ออกไปไหนหรือโทรศัพท์หาใคร โดยเงินดังกล่าวนี้เป็นเงินเก็บของตนรวมกับที่ญาติๆให้มา เพื่อที่จะใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายเรื่องของงานบวชของตนอีกด้วย เมื่อคืนที่ผ่านมาค่อนข้างเครียดมากๆ ถึงกับร้องไห้ตอนที่โทรไปบอกแม่ว่าโดนหลอกให้โอนเงินจนหมดบัญชี. *เบลอหน้าผู้เสียหายด้วยครับ