รวบอดีตพนักงานบัญชีแสบ ปลอมเอกสารฉ้อโกงบริษัทกว่า 4 ล้านบาท ตรวจพบประวัติคดีฉ้อโกงอีกเพียบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้ การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5.บก.ป., พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก, พ.ต.ท.อภิเดช อธิคมสัญญา, พ.ต.ท.ศรัณย์ ศรีพักตร์, พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ รอง ผกก.5 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.ปิยะวัตร ปราบเสร็จ สว.กก.5 บก.ป., ว่าที่ ร.ต.อ.ธนโชติ ภุชชงค์ รอง สว.กก.5 บก.ป., ว่าที่ ร.ต.อ.สิรภัค แทนศิลป และ ร.ต.ท.ณัฐกานต์ ศรีสุขใส รอง สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดศูนย์ปฏิบัติการ กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นางสาวลักขณาฯ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 1.ศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.399/2568 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม” 2.ศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.401/2568 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม” 3.ศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.403/2568 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดความฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม” สถานที่จับกุม บริเวณศูนย์อาหารของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณปี พ.ศ.2556 นางสาวลักขณาฯ ผู้ต้องหา ได้เข้าทำงาน เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีการชำระเงิน ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทผู้เสียหาย ทำหน้าที่จ่ายผลงานและเงินมัดจำผู้รับเหมารวมถึงงานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย จนกระทั่งวันที่ 30 กันยายน 2563 ได้ลาออกจากการ เป็นพนักงานบริษัทผู้เสียหาย ต่อมาบริษัทผู้เสียหายได้ตรวจสอบรายการทางการเงินของบริษัท เพื่อทำบัญชีงบการเงินประจำปี ก่อนตรวจสอบพบความผิดปกติของรายการโอนเงินเข้าบัญชี นายกัญจนณัฏฐ์ฯ (ผู้ต้องหาอีกราย)โดยจากการตรวจสอบพบว่า นายกัญจนณัฏฐ์ฯ ไม่ได้เป็นผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างของบริษัทผู้เสียหาย ผู้เสียหาย จึงได้ตรวจสอบสัญญาจ้างเหมาพบว่า นางสาวลักขณาฯ ได้ปลอมเอกสารรับวางบิลผู้รับเหมาและเอกสารใบสรุปผลงวดงานขึ้นมา โดยการแก้ไขข้อมูลสั่งจ่ายเงินให้กับนายกัญจนณัฏฐ์ฯ และแก้ไขชื่อผู้รับเหมาเป็นชื่อของนายกัญจนณัฏฐ์ฯ และนำเอกสารปลอมฉบับดังกล่าวมาใช้ยื่นเสนอให้กับผู้บริหารของบริษัทผู้เสียหาย เพื่อลงลายมือชื่อเป็นผู้อนุมัติและนำเอกสารดังกล่าวไปยื่นให้เจ้าหน้าที่การเงินดำเนินการทำเรื่องเบิกจ่ายเงิน ซึ่งบริษัทฯ หลงเชื่อและได้โอนเงิน รวมเป็นเงินจำนวนประมาณ 4 ล้านบาท หลังเกิดเหตุผู้เสียหายทราบเรื่องที่เกิดขึ้น จึงได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพื่อให้ได้รับโทษตามกฎหมายจนคดีจะถึงที่สุด จนกระทั่งต่อมาผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ จึงได้ขอศาลอาญา พระโขนง อนุมัติออกหมายจับ น.ส.ลักขณาฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.399/2568 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม” หมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.401/2568 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม” และหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ จ.403/2568 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดความฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม” และได้ออกหมายจับประกาศสืบจับไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่า น.ส.ลักขณาฯ ปรากฏตัวบริเวณศูนย์อาหารของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวไว้ได้ที่บริเวณดังกล่าว ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติคดีอาญายังพบว่า น.ส.ลักขณา มีประวัติคดีฉ้อโกงอีกหลายคดี สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา “การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด











