รวบผู้ต้องหาบัญชีม้า แก๊งหลอกลงทุน หลังหนีคดีไปบวชพระ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ฐากูร นิ่มสมบุญ รอง ผบช.สตส. ปฏิบัติราชการ บช.ก., พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยาผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.จตุรภัทร์ ภิรมย์แก้ว รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ปิยะสมบูรณ์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พงศกร โนรี ประจำ (สบ5) บก.ปคม., พ.ต.อ.รัชภูมิกุสุมาลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม ผกก.6 บก.ปคม., พ.ต.ท.นภสินธุ์ ภูมี รอง ผกก.6 บก.ปคม., พ.ต.ท.ธงชัย สุยะลังกา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.6 บก.ปคม., พ.ต.ท.ธนภณ เอี่ยมสะอาด รอง ผกก.(สอบสวน) กก.6 บก.ปคม., พ.ต.ท.ประวิทย์ ว่องไว ประจำ(สบ.3) บก.ปคม.ช่วยราชการ กก.6 บก.ปคม. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณัฐพร ช่วยนุกูล สว.กก.6 บก.ปคม., ร.ต.ต.จักรภัทร แก้วใจจง รอง สว.(ป.) กก.6 บก.ปคม.ด.ต.ธนศักดิ์ นวลลอง, ด.ต.นภาดล นวลละออง ผบ.หมู่ กก.6 บก.ปคม., เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก. ปคม. ร่วมกันจับกุม นายพิพิธชัยฯ อายุ 58 ปี ตามหมายจับ ศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 709/2564 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถ สถานีรถไฟแห่งหนึ่ง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ด้วยขณะที่ ผู้เสียหายกำลังเล่นสื่อในโซเซียลออนไลน์ได้เข้าไปที่เว็บไซต์แห่งหนึ่งซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปชมได้ โดยได้มีประกาศโฆษณาเด้งขึ้นมา ชักชวนให้ลงทุนเทรดหุ้นอ้างว่าให้กำไรดี ผู้เสียหายจึงสนใจเห็นว่ามีความน่าเชื่อถือ เพราะประกาศในเว็บไซต์สาธารณะจึงได้แอดไลน์ตามที่ประกาศโฆษณาไว้ ก่อนจะได้พูดคุยกับผู้ใช้บัญชีไลน์ใช้ชื่อว่า Sim ชักชวนให้ผู้กล่าวหาร่วมลงทุนเทรดหุ้น ได้กำไรดีแน่นอน ทางคนร้ายได้แจ้งให้ผู้กล่าวหาโอนเงินไปให้คนร้าย เพื่อลงทุนทั้งหมด 9 ครั้ง เป็นการโอนไปยังบัญชีของผู้ต้องหา เป็นเงินรวม 202,560 บาท ภายหลังที่ผู้เสียหายโอนเงินลงทุนไปแล้ว เห็นข้อผิดสังเกตคือเป็นการโอนเข้าบัญชีส่วนบุคคล และก็ไม่ได้รับกำไรตามที่โฆษณาไว้ ผู้เสียหายจึงพยายามติดต่อก็ไม่สามารถติดต่อได้จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นการหลอกลวงให้คนมาร่วมลงทุน ผู้เสียหายจึงรวบรวมพยานหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด ขณะที่พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานพร้อมกับขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้เอาไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบทราบว่า นายพิพิธชัยฯ หรือพระชัยฯ ผู้ต้องหา ตามหมายจับหนีมาบวชเป็นพระ และกำลังเดินทางไปประเทศมาเลเซีย ด้วยรถไฟ ที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่ง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ชุดจับกุมจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเดินทางไปถึงพื้นที่ดังกล่าว พบพระชัย ฯ ยืนอยู่บริเวณที่สถานที่จับกุม จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบ ก่อนพาไปทำการสึกให้เรียบร้อย พร้อมนำตัว พนักงานสอบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา “การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น”