รวบสาวพัทยา รับจ้างถอนเงิน 9 แสนบาท
หลังมิจฉาชีพสวมรอยเป็นหลานผู้เสียหายทักเฟซบุ๊กลวงให้โอนเงิน อ้างค่าซื้อโทรศัพท์
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,
พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย
รอง ผบก.ป.ปรก.บก.ปอท., พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี รอง ผบก.ปอท., พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์,
พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ, พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.สัญญา นิลนพคุณ,
พ.ต.ท.เสริมศักดิ์ น้อยหัวหาด, พ.ต.ท.อิสรพงศ์ ทิพย์อาภากุล รอง ผกก.3 บก.ปอท.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ พุ่มพวง, พ.ต.ท.หญิง ภาพิมล ชัยขันธ์,
พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จอมเล็ก สว.กก.3 บก.ปอท., ร.ต.อ.นนทนันท์ นวนงาม รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท., ส.ต.ท.วสันต์ จันเส ผบ.หมู่ กก.3 บก.ปอท.
ร่วมกันจับกุม น.ส.ธนพรฯ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.293/2568
ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น”
สถานที่จับกุม ริมถนนหน้าบ้านในพื้นที่ หมู่ 7 ซอยหนองไม้แก่น 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า มีผู้มาถอนเงินสดที่สาขาในเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี จำนวน 900,000 บาท ในลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย
เนื่องจากมีคนมาคุมเวลาถอนเงินและรับเงินที่ถอนไป เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนพิสูจน์ทราบ พบว่าในจำนวนนั้น เป็นเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหาย
โดยเป็นกรณีที่คนร้ายได้แฮกเฟซบุ๊กของหลานผู้เสียหาย ก่อนจะทักหาผู้เสียหายเพื่อยืมเงิน จำนวน 50,000 บาท อ้างนำไปซื้อโทรศัพท์ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินให้ จากนั้นเมื่อโทรไปสอบถามหลาน กลับพบว่าหลานไม่ได้ติดต่อขอยืมเงิน ผู้เสียหายจึงรู้ตัวว่าโดนหลอก จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอหมายจับผู้ต้องหา และตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ในเมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่า ได้มีเพื่อนที่พัทยามาติดต่อ ขอใช้บัญชีธนาคาร ซึ่งน.ส.ธนพรฯ (ผู้ต้องหา) อ้างว่าตนเองร้อนเงิน จึงได้ขายบัญชีธนาคารให้เพื่อนคนดังกล่าวไปจำนวน 2 บัญชี ในวันเกิดเหตุ ได้มีกลุ่มคนจำนวน 3-4 คน พาไปเพื่อถอนเงินสดที่ธนาคาร จำนวน 900,000 บาท จากนั้นตนเองก็ได้ส่งมอบต่อให้กับกลุ่มคนร้ายทันที โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 7,500 บาทโจะโดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ ต่อไป
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด











