นนนทบุรี วงจรปิด ตร.รวบโจรสัญชาติลาว 3 ราย ก่อเหตุตระเวณขโมยรถจยย.สารภาพมีนายหน้าให้หารถส่งขายออกประเทศลาว เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.68 ที่ สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด , พ.ต.ต.ดิลก ลาดศิลา สว.สส.สภ.ปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ร่วมกับจับกุม 1.นาย VICHITH KEOVONGSA อายุ 25 ปี สัญชาติ ลาว(เสื้อขาวน้ำเงิน) 2.นาย SONEXAY KHAMPHAVONG อายุ 20 ปี สัญชาติ ลาว(เสื้อสีฟ้า) 3.นาย SIPHAVANH LOUANGVIXA อายุ 24 ปี สัญชาติ ลาว (เสื้อสีดำ)จับกุมตัวได้ที่ ห้องเช่าไม่ชื่อภายในซอยอินทรามระ 7 ถ.สุทธิสาร แขวงดินดินแดง เขตดินแดงกทม. เวลา14.50น. ต่อเนื่อง บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ภายในซอยสมเด็จเจ้าพระยา 13 แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กทม. เวลา 16.20 น. ต่อเนื่องห้องเช่า ภายในบ้านเลขที่ 590 ซอยประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. เวลา 17.45 น. สืบเนื่องจากวันที่ 4 มิ.ย.68 เวลา 12.00น.ที่บริเวณจุดจอดรถจักรยานยนต์หอพักมายเฮาส์ ม.5 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้ก่อเหตุขโมย รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ เวฟ 110 ไอ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กฮ 6016 บุรีรัมย์ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และได้ยึดของกลางไว้คือ 1. เสื้อแขนยาว สีดำ จำนวน 1 ตัว ( นาย VICHITH KEOVONGSA สวมใส่ขณะก่อเหตุ ) 2.กางเกงยีนส์ขายาว จำนวน 1 ตัว (นาย VICHITH KEOVONGSA สวมใส่ขณะก่อเหตุ ) 3.รองเท้าแตะจำนวน 1 คู่ (นาย VICHITH KEOVONGSA สวมใส่ขณะก่อเหตุ ) 4.กางเกงขาสั้น จำนวน 1 ตัว ( นาย SONEXAY KHAMPHAVONG สวมใส่ขณะก่อเหตุ) 5.รองเท้าแตะ จำนวน 1 คู่ ( นาย SONEXAY KHAMPHAVONG สวมใส่ขณะก่อเหตุ) 6.เสื้อยืดสีดำ จำนวน 1 ตัว (นาย SONEXAY KHAMPHAVONG สวมใส่ขณะก่อเหตุ) 7.เสื้อยืดลายขาวดำ จำนวน 1 ตัว ( นาย SIPHAVANH LOUANGVIXA สวมใส่ขณะก่อเหตุ) 8.กางเกงยีนส์ จำนวน 1 ตัว ( นาย SIPHAVANH LOUANGVIXA สวมใส่ขณะก่อเหตุ) 9.โทรศัพท์มือถือ เรียวมีรุ่น ชีดด สีฟ้า จำนวน 1 เครื่อง (ของ นาย VICHITH ) 10.โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 11 โปร สีเทา จำนวน 1 เครื่อง ( ของ นาย SONEXAY ) 11. โทรศัพท์มือถือ เรดมี ชีส สีน้ำเงิน จำนวน 1 เครื่อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาคือ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 02.00 น. ได้มีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 2 คนมาก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี พบว่ากลุ่มคนร้ายที่มาก่อเหตุมีจำนวน 3 คน โดยขับขี่รถจักรยานยนตถของผู้เสียหายหลบหนีไป และร่วมกันไปก่อเหตุลักทรัพย์ ที่บริเวณลานจอดรถวัดกลางเกร็ด ม.1 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อีกจำนวน 2 คัน และขับหลบหนีไป นั้น ต่อมา วันนี้ ( 10 มิ.ย.2568) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายที่มาก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่บริเวณ ห้องเช่าไม่ชื่อภายในซอยอินทรามระ 47 ถ.สุทธิสาร แขวงดินดินแดง เขตดินแดง กทม. จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เล่าว่า ตนยอมรับก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง วันที่ก่อเหตุตนนั่งรถมากับเพื่อน เรียกรถจากแอปพิเคชั่นจากแถวลาดพร้าว หลังจากนั้นนั่งมาลงที่หน้าเมเจอร์ปากเกร็ดกับเพื่อน 3 คน และนั่งวินจากหลังเมเจอร์ มาที่วัดกลางเกร็ด และไปก่อเหตุขโมยรถจยย.เป็นรถเวฟ ตนและเพื่อนใช้อุปกรณ์ต่อตรง และสตาร์ทรถแล้วรีบขับหนีออกไป ซึ่งหลังจากที่ตนขโมยรถมาได้นำรถจยย. ส่งไปที่นายหน้า ซึ่งนายหน้าเป็นคนไทยจะขับรถกระบะตู้ทึบเข้ามารับรถจยย. ที่ขโมยมาเอาข้ามไปฝั่งลาว และนายหน้าจะให้ค่าหัวพวกตนหัวละ 500 บาท ส่วนลดที่หามาจากการขโมยตนจะได้คันละ 18,000 บาท ซึ่งตนส่งออกไปทั้งหมดแล้วประมาณ 5 คัน ได้เงินมาทั้งหมดแค่ 36,000บาท แต่ที่เหลือยังไม่ได้มา มาโดนจับก่อน ซึ่งตนเคยทำงานเป็นรปภ.มาก่อน แต่มารู้จักกับนายหน้าผ่านใน Facebook จึงหารถขโมยและส่งไปให้เขา ซึ่งตนก็รู้สึกผิดและอยากจะขอโทษผู้เสียหาย