นนทบุรี ต่อข่าว ทวีวัฒน์เผย ยืนยันเงินบริสุทธิ์มีหลักฐานครบ ถ้าไม่ใช่มีทางเลือกเดียวคือติดคุก
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ด ได้เชิญตัว นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ทนายความ เจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติกสีเทา พบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ที่ถูกวางทิ้งไว้ข้างถังขยะในป็อปปูล่าคอนโด เมืองทองธานี ตึก P2 ชั้น 4 โซน C ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยในวันนี้นายทวีวัฒน์ฯได้นำเอกสารหลักฐาน อาทิ เอกสารการเบิกถอนเงินสด เข้ามามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของเงินดังกล่าวจริง
ต่อมา เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาตรวจสอบพยานหลักฐาน และถ่ายภาพนายทวีวัฒน์ฯ พร้อมตรวจลายนิ้วมือแฝงเพื่อนำไปพิสูจน์ว่าตรงกับลายนิ้วมือบนธนบัตรหรือไม่
ล่าสุด เวลา 16.00 น. พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด ได้ร่วมสอบสวนกับพนักงานสอบสวนสภ.ปากเกร็ด ซึ่งหลังจากใช้เวลานานกว่า 3 ชม. นายทวีวัฒน์ฯ ทนายความ ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้ได้มีการตรวจลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ และตนได้อ่านทบทวนการให้การ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายที่มาของเส้นทางการเงิน ตนยืนยันว่ามีหลักฐานเยอะ ครั้งนี้มาเป็นรอบที่ 2 ส่วนรอบที่ 3 ในครั้งหน้าตนจะต้องมาวันที่เท่าไหร่อีกยังไม่รู้ วันนี้ได้ข้อสรุปมาว่าถ้าเงินนี้ไม่ใช่ของตน ตนจะต้องติดคุก หรือถ้าเงินนี้เป็นเงินของตน แต่ถ้าเป็นเงินผิดกฏหมายก็ติดคุกเช่นกัน ซึ่งตนเป็นนักกฎหมาย เป็นทนายความมาก่อน ยังไงจะต้องมีหลักฐานครบทั้งหมดอยู่แล้ว ตอนนี้จะมีอะไรเพิ่มเติมต้องรอกันต่อไป
เบื้องต้น พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า นายทวีวัฒน์ฯไม่ใช่ผู้ต้องหา วันนี้เขาได้นำเอกสารหลักฐานมายืนยันการเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้าน ส่วนกรณีพบเงินสดอีก 3 ล้านในห้อง เบื้องต้นยังไม่ทราบข้อมูล แต่ตำรวจเข้าไปในห้องเพียงแค่ตรวจสอบว่ามีจุดที่น้ำรั่ว รอยน้ำ ตามคำที่กล่าวอ้างหรือไม่ ตอนนี้ขอบเขตของการตรวจสอบคือเฉพาะเงิน 12 ล้าน ที่พบเจอ เบื้องต้นยังไม่มีใครมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงินเพิ่มเติม