ปทุมธานี แม่ร้อง”ปวีณา”ข้องใจลูกสาววัย12ปีฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 2 เข็มจนป่วยหนักกว่า 2 เดือนช่วยตรวจ สสจ.ว่าเป็นวัคซีนหรือไม่ เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 4 มิ.ย.68 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี คลองเจ็ด ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี น.ส.อาทิตยา ความสุข อายุ 29 ปี หรือน.ส.เอ (นามสมมุติ) เดินทางจาก จ.นนทบุรี เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ด.ญ.บี (นามสมมุติ) ลูกสาว อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่จ.นนทบุรี สังกัด สพฐ. ได้รับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) ไป 2 เข็ม โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาฉีดให้กับเด็กนักเรียนที่โรงเรียน เข็มที่ 1 ฉีดวันที่ 19 ก.ค. 67 หลังฉีดเข็มที่ 1 ไม่มีอาการผิดปกติ เข็มที่ 2 ฉีดวันที่ 14 ก.พ.68 หลังได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ภายใน 1 เดือน เป็นประจำเดือนถึง 3 ครั้ง แต่ละครั้งมาเยอะผิดปกติ มีเลือดออกตามไรฟัน เเละปวดตามข้อกระดูก ต่อมาวันที่ 28 มี.ค.68 ลูกสาวเเน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ตัวซีดเหลือง แม่จึงพาไปหาหมอที่คลินิกใกล้บ้าน หมอตรวจพบเกร็ดเลือดต่ำ แม่จึงพาลูกสาวไปมาหาหมอที่โรงพยาบาลที่ 1 ตามสิทธิบัตรทอง หมอให้เลือด 2 ถุง นอนอยู่โรงพยาบาล 4 วัน เเต่ค่าเลือดก็ยังไม่ขึ้น, วันที่ 1 เม.ย.68 จึงถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลที่ 2 หมอเจาะไขสันหลังไปตรวจพบว่าเป็น โรคภูมิคุ้มกันทำลายเกล็ดเลือด หมอจึงให้ยาสเตียรอยด์กดภูมิ เเละให้เลือดเพิ่ม, วันที่ 6 เม.ย.68 ลูกสาวเริ่มมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก มือเท้าชา ,วันที่ 7 เม.ย.68 หมอจึงทำการ CT สเเกน พบว่ามีเลือดออกในสมองหลายจุด โดยจุดที่ออกเยอะที่สุดคือ “ก้านสมอง” เเละวันที่ 7 เม.ย. 68 เป็นวันสุดท้ายที่ลูกสาวพูดได้ , วันที่ 10 เม.ย.68 หมอส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลที่ 3 อยู่ห้อง ICU ประมาณ 2 สัปดาห์ ปลูกถ่ายเลือดให้ยากดภูมิ หมอให้ตรวจเลือดอีกครั้ง วันที่ 17 เม.ย. 68 ผลเลือดออกพบว่าเป็น โรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือ SLE ให้รักษาตามอาการ กระทั่งวันที่ 22 เม.ย.68 หมอให้ลูกสาวออกจากห้อง ICU มาพักอยู่ห้องพักฟื้น ช่วงแรกต้องให้อาหารทางจมูกทำให้ระบบทางเดินอาหารและลำฟไส้ติดเชื้อ จนถึงปอดติดเชื้อ ปอดเเฟบ หมอจึงเปลี่ยนวิธีการมาให้อาหารทางหน้าท้อง ทุกวันนี้ลูกสาวยังต้องนอนอยู่โรงพยาบาล หมอบอกว่าอาการทรงตัว การติดเชื้อเริ่มดีขึ้น ค่าของโรคเริ่มดีขึ้น ส่วนเลือดที่ออกจากก้านสมองทำให้โอกาสรอดน้อยมาก และหมอแนะนำให้แม่ไปทำบัตรคนพิการให้ลูก เพราะหากรอดก็อาจจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ รักษาอยู่รพ.ตั้งเเต่วันเเรกถึงวันนี้ก็ครบ 2 เดือนพอดี น.ส.เอ ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า “แม่ใจแทบสลายเมื่อก่อนลูกสาวเป็นเด็กที่ร่าเริงแข็งแรงแต่จู่ๆ กลับมาป่วยหนักรักษาตัวมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ซึ่งน้องมามีอาการหลังจากฉีดวัคซีน HPV ไม่นาน จึงอยากขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยตรวจสอบให้ความกระจ่างกรณีของลูกสาวอาจจะเป็นผลข้างเคียงจากวัคซีนไปทำลายเกร็ดเลือดได้หรือไม่ ขอให้ช่วยเหลือครอบครัวของแม่ด้วย” หลังรับเรื่อง นางปวีณา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนจึงต้องขอคำปรึกษาจาก นพ.ปริพนท์ จุลเจิม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี (สสจ.นนทบุรี) ให้รายละเอียดอาการป่วยของเด็กว่าเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ โดยแม่ให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ลูกแข็งแรงดี และมามีอาการป่วยหลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 และหมอระบุว่าเป็น “โรคแพ้ภูมิตัวเอง” หรือโรค (SLE) จึงอยากให้วินิจฉัยหาข้อเท็จจริงในอาการป่วย และนางปวีณา จะประสาน ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้ประสานโรงเรียนเรื่องสุขภาพของเด็กเพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณา