นนทบุรี วงจรปิด ผกก.ชัยพฤกษ์นำทีมรวบ “แก๊งฟันน้ำนม” งัดตู้บริจาค 2 วัด ซิ่ง จยย.หนี สารภาพเอาเงินซื้อหมูกระทะ จากกรณี เมื่อวันที่ 31 พ.ค.68 เจ้าอาวาสวัดบางจาก ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด ได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิดลงเพจเฟซบุ๊กของวัด เพื่อขอความช่วยเหลือจากสังคม หลังพบว่าในช่วง 10 วันที่ผ่านมา วัดถูกลักทรัพย์ถึง 4 ครั้ง โดยกลุ่มคนร้ายเป็นเยาวชนชายหญิงอายุระหว่าง 8–15 ปี ใช้ไม้และสก็อตเทปแหย่เงินจากตู้บริจาค และงัดทำลายตู้เซฟ ถังเงิน และตู้เหล็กอีกกว่า 10 จุด ความเสียหายรวมเกือบ 5,000 บาท ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ วันที่ 4 มิ.ย.68 เวลาประมาณ 04.30 น. พ.ต.อ.วุฒิชัย สุคนธวิท ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ฉัฐวัฒน์ สิริเบญจศักดิ์ สว.สส.สภ.ชัยพฤกษ์ นำกำลังสายตรวจออกปฏิบัติการในพื้นที่ ก่อนตรวจพบกลุ่มเด็กต้องสงสัยจำนวน 4 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 1ราย อายุระหว่าง 10–12 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ โดยหนึ่งในคันไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่ขอทำการตรวจค้น พบอุปกรณ์งัดแงะ ได้แก่ ไขควง 1 ด้าม ประแจ 1 ด้าม และเงินสดทั้งธนบัตรและเหรียญจำนวน 6,800 บาท เมื่อนำตัวมาสอบถาม เด็กทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เพิ่งก่อเหตุงัดตู้บริจาคที่วัดเชิงเลน และยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์จากตู้บริจาคที่วัดบางจากด้วยเช่นกัน พ.ต.อ.วุฒิชัย เปิดเผยว่า หลังทราบเหตุจากเพจของวัด ตนได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนและสายตรวจเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมลงพื้นที่ด้วยตนเองเพื่อติดตามข้อมูลจากเจ้าอาวาสและประชาชนในละแวกวัด กระทั่งช่วงเช้าตรู่วันนี้ เจ้าหน้าที่สายตรวจพบกลุ่มเด็กต้องสงสัย ขณะขับรถจักรยานยนต์ในลักษณะหลบหนี เมื่อเรียกตรวจสอบจึงพบของกลางทั้งหมด ก่อนจะนำตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดจากการสอบปากคำ เด็กทั้ง 4 คนยอมรับสารภาพว่าได้นำเงินที่ได้จากการลักทรัพย์ไปใช้เที่ยวเตร่ ไปซื้อหมูกระทะกิน และซื้อของใช้ส่วนตัวทั่วไป โดยเพิ่งกลับมาขากการก่อเหตุงัดตู้บริจาคที่วัดเชิงเลน ซึ่งทางวัดก็ยังไม่ทราบเรื่องหลังตำรวจทำการประสานไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นซึ่งใช้คุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ ในสถานที่บูชาสาธารณะ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือเพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” ซึ่งมีโทษสูงสุดกว่า 10 ปี แต่เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเยาวชน จึงต้องเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองเด็กและเยาวชนตามกฎหมาย โดยหลังจากนี้จะมีการสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ ก่อนส่งตัวเข้าสถานพินิจฯ และยื่นคำร้องต่อศาลเด็กและเยาวชนต่อไป พ.ต.อ.วุฒิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบยังพบว่าบริเวณรอบวัดบางจากมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงได้ประสานให้ทางวัดจัดทำทะเบียนข้อมูลผู้พักอาศัย เพื่อป้องกันเหตุลักทรัพย์ในอนาคตอย่างเป็นระบบ