นนทบุรี คืบหน้า พบแล้ว อดีตตำรวจตระเวนชายแดน วัย 82 ปี ลูกสาวงงออกจากบ้านตอนไหน จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “อดีตข้าราชการตำรวจ ตระเวนชายแดน ตามองไม่เห็นทั้ง 2 ข้าง โดนรถแท็กซี่ทิ้งจาก รพ.ไทรน้อย บอกรถว่าจะมา รพ.ชลประทาน โดนรถทิ้ง ผมพามา รพ.ชลประทานให้แล้ว ทำเรื่องยื่นบัตรผู้ป่วยให้แล้ว ที่เหลือใครเป็นญาติพี่น้องมารับด้วยนะครับ ขอบคุณครับ“ ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 3 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง สส.นนทบุรี เขต 7 พรรคประชาชน ว่าพบบ้านของ ร.ต.ต.ชาญชัย เทียนศรี อายุ 82 ปี อดีตตำรวจตะเวนชายแดน ที่ถูกแท็กซี่นำมาส่งทิ้งหน้ารพ.ไทรน้อย เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา ซึ่งคุณตาได้อาศัยอยู่กับครอบครัว โดยมีลูกสาว และหลานชาย ภายในหมู่บ้านชวนชมพาร์ค ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ และได้พูดคุยกับลูกสาวคุณตาถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการสอบถาม น.ส.นัฏธีรา เทียนศรี หรือน.ส.ตุ้ง อายุ 38 ปี ลูกสาว กล่าวว่า ปกติพ่อจะอยู่กับตนและลูกชาย ซึ่งวันเกิดเหตุตนพาลูกชายออกไปซื้อชุดนักเรียน ส่วนพ่ออยู่ที่บ้านคนเดียว ตนไม่ทราบว่าวันนั้นพ่อออกไปข้างนอก มารู้เรื่องจากญาติบอกว่าเห็นข่าวออกทีวีว่าพ่อพลัดหลง โดนแท็กซี่ทิ้ง ตนรู้สึกงงว่าพ่อออกจากบ้านไปตอนไหน เพราะกลับมาก็ยังเห็นพ่อนอนอยู่ในบ้านปกติ ตนรู้สึกตกใจ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ซึ่งหากตนไม่อยู่บ้านปกติจะล็อกรั้ว แต่พ่อก็มักจะชอบปีนรั้วออกไป บางครั้งหากห้ามมากไปก็จะทะเลาะกัน ประท้วงด้วยการไม่ยอมกินข้าว พ่อพูดว่าอย่ากักขังเดี๋ยวจะแจ้งความ ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนใหญ่เวลามีปัญหาตนจะโทรหาพี่สาวแล้วเขาก็จะเข้ามาจัดการ แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์ โดยปกติจะมีหมอจิตเวชมาตรวจเยี่ยมที่บ้านเดือนละครั้ง ตั้งแต่แม่เสียไป 3-4 ปี พ่อจึงป่วยเป็นซึมเศร้า รักษาตัวที่รพ.ไทรน้อย รักษาดวงตา ผ่าต้อหิน ที่รพ.วัดไร่ขิง และทำที่ใส่หูสำหรับช่วยฟัง เพราะพ่อไม่ค่อยได้ยิน ทำให้เราต้องพูดจากันเสียงดัง เมื่อเช้ารับโทรศัพท์จากญาติพี่น้องทุกคนตกใจมาก โทรเข้ามาถาม ตนไม่รู้จริงๆว่าพ่อหายไปตอนไหน ตนเป็นลูกห้ามไม่ได้ คนเดียวที่ห้ามได้คือแม่ แต่แม่เสียไปแล้ว ตนไม่เคยพาพ่อไปรักษาพ่อที่รพ.ชลประทาน คิดว่าน่าจะมีการเข้าใจผิดมากกว่า เพราะวันนั้นตนไม่อยู่บ้านจริงๆ จึงไม่สามารถตอบคำถามได้ แต่ยืนยันได้ว่าพ่อไม่เคยรักษาตัวที่นั่น ตนลาออกจากงานมาดูแลพ่อประจำ เมื่อเช้าก็ยังหาข้าว ให้กิน ฝากขอบคุณพลเมืองดีที่เห็นพ่อแล้วช่วยเหลือนำไปส่ง บางทีเป็นความผิดพลาดของตนเอง แค่ไม่อยู่บ้านแปบเดียว ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงพ่อ พ่อตนสบายดี หลังจากนี้คงทิ้งไปไม่ได้ ถ้าอยู่คนเดียวต้องมีเรื่องอีกแน่ อยากจะฝากถึงคนขับแท็กซี่ ตนต้องขอโทษหากโดนโซเชียลกระหน่ำ อาจสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เป็นเรื่องที่เข้าใจยาก ตนเองก็ตกใจ ขอบคุณทุกคนอีกครั้งจริงๆ จะดูแลพ่อให้ใกล้ชิดมากขึ้น ร.ต.ต.ชาญชัย เทียนศรี กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนกลับจากรพ.ไทรน้อย และบอกกับแท็กซี่ว่าจะไปอนามัยคลองตาคล้าย แท็กซี่จึงส่งตนลงจุดที่มีวินจยย. ค่ารถ 50 บาท ตนให้แบงค์ 500 บาทไป และเขาทอนมา 450 บาท ซึ่งแท็กซี่ไม่ได้ทิ้งตน แต่เขาบอกให้ตนลงตรงนี้ วินจยย.เขาเห็นก็บ่นว่าตนตาไม่ดีทำไมไม่ไปส่งให้ถึงที่ จะได้ไม่ต้องเดินข้ามถนน ซักพักมีคนขับขี่รถจยย.มาส่งแฟนแถวที่ตนยืนอยู่ และถามตนว่าจะไปไหน ตนบอกจะไปรพ.ชลประทาน เขาจึงอาสาไปส่ง และติดต่อรพ.เพื่อนัดหมายผ่าตาปลาที่เท้า รวมถึงเจาะเลือดตรวจร่างกายให้วันศุกร์ที่จะถึงนี้ รพ.ได้แนะนำให้ตนย้ายการรักษาเรื่องดวงตาจากรพ.วัดไร่ขิงมาที่นี่เพราะใกล้บ้านกว่า และแนะนำสายรถเมล์เพื่อการเดินทาง มีคนแนะนำว่าที่รพ.ชลประทาน เป็นรพ.ที่เป็นโรงเรียนแพทย์ และแนะนำให้ตนไปรักษาตาปลาที่เท้าที่นี่ ตนจึงมีความประสงค์ที่จะเดินทางไปเอง รับปากว่าหลังจากนี้จะไม่เดินทางไปไหนคนเดียวอีก มีญาติโทรศัพท์มาบอกเห็นข่าวตน ซึ่งตนมีคนรู้จักเยอะ ไม่รู้เหมือนกันว่าไปออกข่าวได้ยังไง ด้านนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้งสส.นนทบุรี เขต 7 พรรคประชาชน กล่าวว่า จากที่มีกระแสข่าว และพี่น้องประชาชนได้เป็นห่วงคุณตา ว่าคุณตาที่ถูกแท็กซี่ทิ้งกลับบ้านมาแล้วหรือยัง อาการเจ็บป่วยเป็นยังไงบ้าง ซึ่งตนได้ประสานให้ผู้ใหญ่บ้านในเขตพื้นที่สืบหาบ้านคุณตาจนพบ และจากการลงพื้นที่พบคุณตาอยู่บ้านปกติกับครอบครัว อยู่กับลูกสาวและหลานชาย ซึ่งมีความเป็นอยู่ที่ดี ฝากถึงพี่น้องประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง คุณตาอยู่บ้านอย่างปลอดภัย และรับปากกับตนแล้วว่าจะไม่ออกจากบ้านไปคนเดียว ฝากทุกท่านหากพบเห็นผู้สูงอายุที่เดินทางคนเดียว ให้ความเมตตาสอบถามดูบัตรประชาชนว่าท่านอยู่ที่ไหนและติดต่อลูกหลานเพื่อนำส่ง เพราะบางทีท่านอาจจะรู้ตัวว่าเดินออกไปไหน