นนทบุรี วงจรปิด เจ้าอาวาสวัดบางจากเศร้าใจ ถูกกลุ่มเด็ก4คน อายุ8-15ปี งัดตู้บริจาค เผยอาทิตย์เดียวโดนขโมยเข้าวัด4ครั้งติด จากกรณีที่เพจวัดบางจาก ปากเกร็ด โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความไว้ว่า “อาชีพที่ได้ใช้เงินทางลัดแต่ก็เตรียมไปใช้ในคุกในเรือนจำ ยุงที่ว่าชุมแล้วโขมยยิ่งชุมกว่ายุงจับไปเเมื่อสองวัน เมื่อวานก็ปล่อยไป วันนี้มาอีกแล้วทีนี้เป็นเยาวชนทั้ง4 คน ได้ออกงัดแงะ ออกอาระวาด อีกแล้วพรุ่งนี้เตรียมตัวนะลูกหลานใคร จะเอาออกมามอบตัวหรือจะให้ตำรวจไปจับตัวถึงที่ให้เสียหายวงศ์ตระกูล(การนึ้ฉันไม่ได้รุ้สึกคับแค้นใจอะไรนะแต่จะหดหู่ใจมากกว่าว่าเด็กๆเยาชนเรามากันถึงขนาดนี้เลยหรือจะแก้ไขกันอย่างไรดี)” ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30น. วันที่ 1 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ วัดบางจาก นนทบุรี พบ พระครูกิตตินนทคุณ (ชูเกียรติ ฐิตคุโณ) เจ้าอาวาสวัดบางจาก ปรากฏว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางวัดฯ โดนขโมยเข้ามางัดตู้บริจาคทั้งหมด 4 ครั้ง ภายในเวลาไม่ถึง 10 วัน และทางวัดฯเคยจับขโมยได้ทั้งหมด 2 ครั้ง ส่วนล่าสุดเป็นกลุ่มแก๊งเด็ก4คน อายุไม่ถึง 20 ปี ที่เข้ามาก่อเหตุงัดตู้บริจาคไปและได้เงินไปทั้งหมดเกือบ 5,000 บาท ที่เกิดเหตุเป็นวิหารที่มีพระองค์ใหญ่ให้ประชาชนมากราบไหว้ และมีตู้บริจาคจำนวนหลายตู้ ซึ่งทุกตู้ถูกแงะทั้งหมด จากการสอบถาม พระครูกิตตินนทคุณ เล่าว่าอาทิตย์นี้ขโมยเข้ามางัดตู้บริจาควัด 3 ครั้งแล้ว และครั้งล่าสุดเป็นเมื่อคืน เป็นกลุ่มเด็กที่เข้ามาขโมย ซึ่ง2ครั้งแรกจับตัวได้ ส่วนครั้งที่ 3 คนก่อเหตุเป็นใบ้ สงสารจึงปล่อยตัวไป ล่าสุดครั้งที่ 4 คือกลุ่มเด็ก เป็นเด็กเยวชน 4 คน มารื้องัดตู้บริจาค งัดตู้เซฟ และทุบถังเงินถังทอง เดินไปการื้อทุกที่ตามกล้องวงจรปิด ซึ่งกลุ่มเด็กที่เข้ามาขโมย เป็นเด็กอายุประมาณ 8 ขวบ ไม่เกิน 15 ปี ลักษณะในการก่อเหตุเด็กใช้ไม้ยาวและเอา สก๊อตเทปพันไม้ไว้และแหย่ยเข้าไปในตู้ให้เงินติดออกมา ส่วนตู้ไหนที่หย่อนไม้ไม่ได้จะใช้วิธีการทุบและแงะ ซึ่งตนรู้สึกเศร้าใจเพราะเป็นเด็กและเยาวชน ที่เข้ามาก่อเหตุ ตนไม่เคยเจอ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอกว่าตอนนี้กำลังตามจับตัวคาดว่าประมาณไม่เกิน 3 วันจะจับเด็กกลุ่มนี้ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบรู้ตัวเด็กที่ก่อเหตุบางคนแล้ว แต่ถ้าจับได้แล้วจะทำอย่างไรต่อ เพราะกหมายยทำอะไรเด็กพวกนี้ไม่ได้ เป็นเด็กที่ไม่มีคุณภาพในการใช้ชีวิตจึงมาก่อเหตุแบบนี้ ซึ่งเวลาตำรวจจับได้บางครั้งตนไม่เคยเอาเรื่องให้กลับใจกลับมาทำงานที่วัด แต่ทำงานไม่ถึง 1 วันก็หนีไป และไม่พ้นการกลับมาขโมยของซ้ำ ตนไม่เข้าใจว่าเด็กเยาวชนไม่เรียนหนังสือ สังคมแย่ลงทุกวัน อาจจะให้มีการอบรมพวกนี้บ้าง เพราะบางครั้งเด็กพวกนี้ก็ใช้ยาเสพติด และขาดผู้ปกครองดูแล ตนกลัวว่าถ้าวันนึงไปเจอผู้ใหญ่ที่โหดร้ายขึ้นมาไปขโมยของเขาชีวิตอาจจะไม่รอด แต่ที่เขามาขโมยของที่วัด ก็เป็นบาปกรรมติดตัว ทุกวันนี้เด็กสิ้นคิดทำอะไรไม่คิดแล้ว ส่วนตู้ที่พวกเขางัดไป เงินประมาณ 5,000 บาท เพราะตู้ในวิหารไม่ค่อยได้เอาเงินออกมาใช้ มีจุดที่เสียหายจากกลุ่มเด็กประมาณ 10 จุด จะให้ไปร้องเรียกเอาเงินคืนจากพ่อแม่เด็กก็คงจะไม่มีปัญญาหามาคืน เพราะแค่เด็กก็ไม่มีคุณภาพแล้ว ขาดการอบรม เพียงแค่อยากจะได้เงินใช้ก็ลงมือขโมยทุกอย่าง ทางด้าน นายศรราม คุ้มเจริญ เด็กดูแลวัดเคยจับขโมยได้ เล่าว่า ครั้งแรกที่โดนขโมยคนร้ายเข้ามาช่วงกลางคืน และเข้ามางัดตู้บริจาคแต่ตนที่นั่งเฝ้าอยู่ได้ยินเสียงและดูผ่านกล้องวงจรปิดจึงเห็นมีคนเข้ามางัดตู้ตนจึงออกไปและสามารถจับตัวคนร้ายได้ และจับส่งตำรวจ ส่วนครั้งที่ 2 ก็เป็นคนกลุ่มเดิมจับได้อีกครั้ง ก็ส่งตำรวจเช่นเดิม ส่วนครั้งที่3 เป็นลุงแก่และเป็นใบ้ ทางเจ้าอาวาสสงสารจังปล่อยตัวไป ส่วนครั้งล่าสุดครั้งที่ 4 เป็น เด็กที่เข้ามาก่อเหตุขี่จยย.กันมา 4 คน หลังจากจอดรถแล้วปีนขึ้นมาจากหน้าต่างวิหาร และขึ้นมาแงะตู้ เด็กเดินตระเวณตั้งแต่ด้านหน้าวัดเข้ามายันข้างใน เห็นจุดไหนขโมยได้ก็จะขโมย ตนไม่เคยเห็นเด็กพวกนี้มาก่อน แต่ตนคาดว่าเด็กเคยมาดูราดราวไว้แล้ว และอาจจะมีประสบการณ์เพราะเขาใช้ประแจในการลงมือ ตู้ในวิหารไม่ค่อยได้ไขเอาเงินออกมาคาดว่าจะได้เงินไปเยอะ ตอนนี้ตนต้องผลัดเปลี่ยนคนเข้ามาเฝ้า และดูราวราดเพิ่มเติม เปลี่ยนกุญแจตู้ทุกตู้เพื่อป้องกันไม่เกิดเหตุซ้ำ ทางด้านมัคทายก เล่าว่า ทางวัดโดนขโมยมาถี่ๆ ที่จับขโมยได้เพราะพึ่งติดกล้องวงจรปิดใหม่ และตรวจเงินในตู้ว่าเหลือน้อย จึงสังเกตุการณ์กัน จนจับขโมยได้ 2 ครั้ง แต่คนบาปพวกนี้ก็เข้ามาเรื่อยๆ โดน4 ครั้งติดภายใน 10 วัน เข้ามาขโมยเอาเงินตู้บริจาค และทำลายข้าวของวัดเสียหาย ตอนนี้จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการให้หมด และไม่อยากให้หลวงพ่อสงสารคนพวกนี้แล้ว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ ได้เข้าตรวจสอบลงพื้นที่แล้ว และอยู่ในระหว่างการติดตามตัวกลุ่มเด็ก 4 คน คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้ เพราะมีการสืบทราบรู้ข้อมูลของเด็กบางรายแล้วว่าอยู่แถวไหน