จับกุม หนุ่มฝาง ฟอกเงินให้แก๊ง Call Center
พบรับแลก USDT เถื่อน ให้แก๊ง Call Center และ เว็บพนัน กว่า 300 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์, พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ, พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี รอง ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.สัญญา
นิลนพคุณ, พ.ต.ท.เสริมศักดิ์ น้อยหัวหาด, พ.ต.ท.อิสรพงศ์ ทิพย์อาภากุล รอง ผกก.3 บก.ปอท.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ พุ่มพวง, พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จอมเล็ก, พ.ต.ท.หญิง ภาพิมล ชัยขันธ์ สว.กก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.ปกฉัตร สงวนแวว สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท., ร.ต.อ.นันทณัฐ ปิณะวันนา, ร.ต.อ.นนทนันท์ นวนงาม, ว่าที่ ร.ต.ท.อินทุชัย อินทรา, ว่าที่ ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ เศรษฐอัครเบญจา รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท., จ.ส.ต.พีระวุฒิ สนธิสำราญ, จ.ส.ต.กุลชาติ พลับสอาด, จ.ส.ต.วีระศักดิ์ บุญยก, ส.ต.ท.เกียรติศักดิ์ ภรินทนันท์ ผบ.หมู่ฯ ช่วยราชการ กก.3 บก.ปอท. และ ส.ต.ท.วสันต์ จันเส ผบ.หมู่ กก.3 บก.ปอท.
ร่วมกันจับกุม นายศุภากรฯ หรือตี๋ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2996/2568
ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ผู้ต้องหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม
ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันเป็นอั้งยี่”
สถานที่จับกุม บริเวณ อาคารแห่งหนึ่ง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้ทำการสืบสวนกรณีผู้เสียหายถูกคนร้ายซึ่งรู้จักผ่าน Tiktok ได้หลอกให้ลงทุนเทรดคริปโตฯ ผ่านแพลตฟอร์มปลอมชื่อ https://foxwallet-co.co-cash.com/ มูลความเสียหายรวม 1.8 ล้านบาท โดยการสืบสวนพบว่า มีการโอนเงินไปยังบัญชีม้าจำนวนหลายบัญชี และมีการฟอกเงินต่อหลายรูปแบบ ทั้งกดเงินสดจากบัญชีม้าทันที ในพื้นที่จังหวัดพะเยา, มีการฟอกเงินผ่าน True Money Wallet และคริปโทฯ
รวมทั้งมีการนำเงินที่ได้ไปซื้อรถหรู จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาล และเปิดปฏิบัติการ “FOX Hunt” ล่าจิ้งจอก ทลายแก๊งหลอกลงทุน FOX Wallet ปลอม รวบยกแก๊ง 8 ราย ทั้งจีนดำ ไทยดำ ยึดทรัพย์กว่า 3 ล้านบาท” ไปแล้วก่อนหน้านี้ นั้น
จากนั้นจึงได้ขยายผลพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว มีการนำเงินที่ได้จากการฉ้อโกงดังกล่าว ไปฟอกเงินโดยการโอนไปซื้อคริปโทฯ สกุล USDT เถื่อน กับนายศุภากรฯ จำนวนกว่า 30 ล้านบาท โดยโอนเข้าบัญชีส่วนตัวและบัญชีม้าต่างๆ ที่นายศุภากรฯ แจ้ง และ นายศุภากรฯ จะโอนคริปโทฯ สกุล USDT ไปยังกระเป๋าของบอสจีน และเมื่อตรวจสอบข้อมูลบัญชีธนาคารและบัญชีคริปโทฯ ของนายศุภากรฯ พบว่ามียอดเงินหมุนเวียนจากการขาย USDT เถื่อน ให้กับ แก๊ง Call Center และ เว็บพนันกว่า 300 ล้านบาท จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาลอาญา ที่ 2996/2568 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 และจับกุมตัว
นายศุภากรฯ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าไม่รู้ว่าผู้ต้องหาที่มาซื้อ USDT กับตน นำเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายมาซื้อ แต่จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้น น่าเชื่อว่า นายศุภากรฯ ย่อมรู้ หรือ ควรจะรู้ว่าเงินที่ผู้ต้องหานำมาแลกเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด เนื่องจากมีการแลกเงินในจำนวนมากในทุกๆ วัน และมีการใช้บัญชีในการโอนมาซื้อเหรียญจำนวนหลายบัญชี
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย
1.ไม่ควรซื้อ-ขาย คริปโทฯ นอกแพลตฟอร์มกับคนที่ไม่รู้จักและไม่รู้แหล่งที่มาของเงิน เนื่องจากอาจตกเป็นผู้ต้องหาในขบวนการฟอกเงินให้กับมิจฉาชีพและอาชญากร ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึง จำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 10 ปี ปรับ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกยึดทรัพย์
2.ให้ระมัดระวัง บุคคลที่รู้จักผ่าน Social Media ทุกแพลตฟอร์ม เพราะอาจเป็นตัวตนปลอม ที่ทักมาเพื่อชวนคุยให้ตายใจและหลอกลวงให้ลงทุน โดยมักจะให้เข้ากลุ่มไลน์ ที่มีหน้าม้าจำนวนมาก และหน้าม้าจะส่งสลิปปลอมเข้ามาในกลุ่ม อ้างว่าได้กำไรดี ได้เงินจริง จากนั้นจะดึงเข้ากลุ่ม VIP เพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินลงทุน
โดยจะหลอกให้ได้เงินในช่วงแรกๆ หลักพัน, หลักหมื่น หรือบางครั้ง อาจถึงหลักแสน จนกระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อ และลงทุนจำนวนมาก โดยหลังจากนั้นจะมีเริ่มข้ออ้างๆ ที่ไม่สามารถถอนเงินได้ เพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มขึ้น เช่น ต้องโอนเงินเพื่อจะให้ถอนเงินที่โชว์ในแอพปลอมได้, ต้องโอนเงินเพื่อปลดล็อกยอดเงินในแอปปลอม ฯลฯ








