ปทุมธานี รวบไอ้หรั่งแก๊งลักจยย.ส่งขายประเทศเพื่อนบ้านไปกว่า 100 คันมูลค่ากว่า12 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 พ.ค.68 ที่สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.ศราวุธ สวัสดิชัย พ.ต.อ.วิษณุรักษ์ พรหมเมศร์ รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และ พ.ต.อ.หฤษฏ์ คำจุมพล ผกก.กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ จว.ปทุมธานี จำนวน 2 คดี ดังนี้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า คดีแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากคองรังสิต ได้จับกุมแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์รายใหญ่ก่อเหตุลักรถ จยย.มาแล้วกว่า 100 คัน มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 12 ล้านบาท สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 พ.ค.68 เวลาประมาณ 11.00 น.ผู้เสียหายได้นำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น WAVE 110 i สีแดง หมายเลขทะเบียน 2กช 1324 เชียงใหม่ ไปจอดไว้ที่บริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟฟ้าหลักหก (ม.รังสิต) ต.หลักหก อ.เมือง จว.ปทุมธานี ต่อมาในวันที่ 19 พ.ค.68 เวลาประมาณ 05.00 น. กลับมาเอารถที่จอดไว้ ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ได้หายไปแล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต นำโดย พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต พ.ต.ท สิรภพ บัวหลวง รอง ผกก.สส.ฯ และ พ.ต.ต.อิทธิพล พุทธรักษา สว.สส.ฯ ได้ออกทำการสืบสวนหาข่าวและต่อมาทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในคดีนี้ มีจำนวน 3 คน ได้แก่ 1.นายภูมิ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี 2.นายฟรองซ์ (นามสมมติอายุ 26 ปี 3.น.ส.อีฟ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของ นายภูมิ (นามสมมติ) พบว่าเคยต้องโทษข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ในพื้นที่ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี จำนวน 8 คดี เมื่อปี พ.ศ.2566 จากการสอบปากคำทั้ง 3 คน ให้การรับว่า ได้นำรถจักรยานยนต์ที่โจรกรรมมาไปขายต่อให้กับนายนราธร หรือ หรั่ง ตาผล อายุ 26 ปี ที่บ้านพักอาศัยซึ่งอยู่ในพื้นที่ ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จว.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบที่บ้านพักของนายหรั่ง ผลปรากฏว่า พบรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมา 2 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น WAVE 110 i สีน้ำเงิน ติดแผ่นป้ายทะเบียน7 ขถ 6199 กทม.(แจ้งหายไว้ที่ สภ.คูคต และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น WAVE 110 i สีน้ำเงิน ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1กม 1540 ร้อยเอ็ด (แจ้งหายไว้ที่ สภ.คูคต) ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบพบว่านายหรั่ง (นามสมมติ) กำลังจะยกรถจักรยานยนต์ทั้งสองคันขึ้นรถตู้ทึบเพื่อจะนำไปขายต่อที่เขตมีนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวพร้อมของกลาง จากการสอบสวนนายหรั่ง ให้การว่า เริ่มรับซื้อรถจักรยานยนต์ ตั้งแต่เดือนธ.ค.67 จนถึงปัจจุบันรวมระยะเวลากว่า 6 เดือน ได้รับซื้อรถจักรยานยนต์มากกว่า 135 คัน เมื่อได้รถจักรยานยนต์มาแล้ว จะส่งให้เพื่อนในเฟสบุ๊กเพื่อทำการปลอมแปลงเอกสารของรถที่ถูกโจรกรรมมาโดยมีค่าดำเนินการคัดสำเนารถ 300 บาทต่อคัน และสำเนาบัตรประชาชน 400 บาท เพื่อให้ตรงกับรถที่รับซื้อมาและจากการตรวจสอบยอดเงินหมุนเวียนบัญชีธนาคารของนายหรั่ง (นามสมมติ) ตั้งแต่เริ่มมีการซื้อขายรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาพบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 11,227.970 ล้านบาท จากการตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 -จนปัจจุบัน นายหรั่ง (นามสมมติ) ขายรถที่ถูกโจรกรรมจำนวน 26 คัน โดยพบว่า เป็นรถที่แจ้งหายในพื้นที่ กรุงเทพฯและปริมณฑล 8 โรงพักรวมทั้งสิ้น 10 คัน จึงได้แจ้งข้อหาและจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คน โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า คดีที่สอง จับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สภ.คลองหลวง คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง นำโดย พ.ต.อ.อธิเมศร์ ไชยศรัญวิชญ์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.วีระ สุขชนะ สว.สส.ฯ พ.ต.ท.ธนุส วิสุทธาภรณ์ สว.สส.ฯ ร.ต.ท.ประเวช สุขมหาหลวง ร.ต.ต.สมเกียรติ จุ้ยซื่อ และ ร.ต.ต.พงษธร กุลหกูล ได้ทำการจับกุมตัวนายเล้ง (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุโจรกรรมรถในพื้นที่ สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้ขยายผล โดยนายเล้ง ผู้ต้องหาให้การว่า เมื่อโจรกรรมรถได้แล้วจะนำไปขายต่อให้กับนายเล็ก (นามสมมติ) อายุ 40 ปีจึงได้ไปตรวจสอบที่บ้านพักของนายเล็ก ผลปรากฏว่าพบรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมา 2 คัน รถที่ใช้ก่อเหตุ 1 คัน ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น SCOOPY I สีชมพู ขาว ทะเบียน 4 กษ 373 กทม. (รถใช้ก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น SPACY สีแดง ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่น นูโวMX สีน้ำเงิน – ดำ ทะเบียน ขฉร 130 บุรีรัมย์ เอกสารใบคู่มือจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 เล่ม สำเนารายการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ 3 ฉบับ เอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายรถจักรยานยนต์จำนวนมาก จากการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม ทราบว่าแก๊งนายเล้ง และนายเล็ก ได้เคยโจรกรรมทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ สภ.คลองหลวง มาแล้วจำนวน 4 คัน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยเมื่อได้รถมาแล้วจะส่งให้เครือข่ายในเฟสบุ๊ก เพื่อทำการปลอมแปลงเอกสารของรถที่โจรกรรมมา โดยมีค่าดำเนินการ คัดสำเนารถ 300 บาทต่อคัน และสำเนาบัตรประชาชน 400 บาท เพื่อให้ตรงกับรถที่โจรกรรม ได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง2 คน โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” พล.ต.ท.สุรพบ เปรมบุตร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ทั้งสองคดีมีมูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 12,000.000 บาท ซึ่ง ภ.จว.ปทุมธานี และตำรวจภูธรภาค 1 จะได้ทำการติดตามรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมไปทั้งหมดรวมถึงขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทั้งผู้รับซื้อจัดหาวางแผนหรือเกี่ยวข้องในเส้นทางการเงิน พร้อมวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ออกดูแลในพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ อย่างเข้มข้น เพื่อกวาดล้างแก๊งโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในพื้นที่ให้หมดไปทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.68 ถึงปัจจุบัน ภ.จว.ปทุมธานี ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาในคดีโจรกรรมรถไปแล้ว 18 คนและติดตามรถที่ถูกโจรกรรมไปนำส่งคืนให้กับเจ้าของแล้ว 23 คันโดยตำรวจภูธรภาค 1 ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชนหากพบเห็นพฤติกรรมน่าสงสัยว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์โปรดแจ้งเบาะแสไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 หรือสายด่วน 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง








