ดส. เปิดยุทธการ “ทลายรัง เงาะ วัดตึก” ขายปืนเถื่อนให้วัยรุ่นในโซเชียล วันที่ ( 23 พ.ค. 68 ) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น., พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล, พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์, พ.ต.ท.มโรดม์ ขวัญเมือง รอง ผกก.ดส.บช.น. ชุดปฏิบัติการที่ 4 นำโดย พ.ต.ท.รชต พุ่มพันธุ์ม่วง สว.กก.ดส.บช.น. , ร.ต.อ.กิตติกานต์ สินประกอบ รอง สว.กก.ดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.4 กก.ดส.บช.น. ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายทนงศักดิ์(สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ในข้อหา 1.จำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาต จากนายทะเบียนท้องที่ 2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว สถานที่จับกุม บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ก่อนจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอสงวนนาม) แจ้งว่า มีการโพสต์ขายอาวุธปืนและปืนแปลงค์กันแปลงสภาพผ่านทางกลุ่ม Facebook ชื่อ “ปืนไทยประดิษฐ์และแบงค์กันแปลง” สายลับเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการคอมเมนท์โพสต์ดังกล่าวไป จากนั้น ได้มีการแชทข้อความเพื่อติดต่อซื้อขายกันในชื่อ “ศิริศักดิ์ xxx”และผู้ขายในชื่อ โดยเสนอขายอาวุธปืนของกลาง ในราคา 60,000 บาท (หกหมื่นบาทถ้วน)โดยผู้ขายตกลงส่งมอบอาวุธปืนผ่านขนส่งแฟลชเอ็กเพลส ภายในร้านสะดวกซื้อ สถานที่เกิดเหตุ ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมซึ่งได้แอบซุ่มดูอยู่ ได้สังเกตเห็นชายผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อภายหลัง นายทนงศักดิ์(สงวนนามสกุล) ลักษณะตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ เดินถือตรงเข้าไปภายในร้านสะดวกซื้อดังกล่าว จึงได้ออกจากที่ซ่อนตัวและแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอตรวจค้นสิ่งของภายในกล่องดังกล่าว โดยก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ผลการตรวจพบ อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลาง ถูกห่อด้วยเสื้อผ้าเก่า อยู่ภายในกล่องดังกล่าว โดยนายทนงศักดิ์ฯ รับว่า ของกลางดังกล่าวเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ติดต่อซื้อขายกันจริง และเตรียมเพื่อที่จะนำมาส่งมอบให้กับผู้ซื้อผ่านแฟลขเอ็กเพลส เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ที่บ้านพักของนายทนงศักดิ์ น่าจะมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายทนงศักดิ์ฯ ไปยังบ้านพักบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งต่อนายทนงศักดิ์ฯว่า บ้านดังกล่าวมีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจจะมีสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิดซุกซ่อนอยู่ภายใน จึงได้ให้นายทนงศักดิ์ฯ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเป็นผู้นำการตรวจจค้น โดยนายทนงศักดิ์ฯ ได้ให้ความยินยอมและเป็นผู้นำในการตรวจค้นด้วยตนเอง และในระหว่างนั้นได้มีมารดาของนายทนงศักดิ์ฯ ซึ่งพักอาศัยอยู่บ้านติดกันได้ขอเข้าร่วมสังเกตการในการตรวจค้นด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับมายัง กก.ดส. เพื่อจัดทำบันทึกการจับกุมและนำตัวผู้ถูกจับส่งสถานีตำรวจภูธรบางศรีเมือง จ.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป