รวบลุงโหด ใช้มีดพร้าฟันศีรษะน้องสาวแท้ๆ ปมแย่งชิงมรดก ก่อนหลบหนีกบดานเกาะกลางทะเล กว่า 10 ปี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก,พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลาวุจิราลัย, พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์ , พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก ,พ.ต.ท.อภิเดชอธิ คมสัญญา,พ.ต.ต.ศรัณย์ ศรีพักตร์, พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ รอง ผกก.5 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.สฤษดิ์ ชำนิไกร สว.กก.5 บก.ป. ,ด.ต.นฤมิต โคนาหาร, จ.ส.ต.ณรงค์ จงสมชัย,ส.ต.อ.เทพวิชญ์ หมุนวงศ์ ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายปฏิพล ฯ อายุ 69 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดชุมพร ที่ จ 236/2556 ลงวันที่ 30 กันยายน 2556 ข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและพาอาวุธ (มืดพร้า) ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร” สถานที่จับกุม บริเวณท่าเทียบเรือเกาะจิก ม.1 ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี สืบเนื่องจากนายปฏิพลฯ ผู้ต้องหาได้มีปัญหาเรื่องแบ่งมรดกกับน้องสาวแท้ๆ ต่อมา เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2556 นายปฏิพลฯ ได้ใช้อาวุธมีดพร้าฟันบริเวณศีรษะของน้องสาวตัวเอง จำนวน 3-4 ครั้ง เป็นเหตุให้น้องสาว ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้น นายปฏิพลฯ ได้หลบหนีไป ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การขอศาลจังหวัดชุมพรออกหมายจับ นายปฏิพลฯ หมายจับที่ จ 236/2556 ลงวันที่ 30 กันยายน 2556 ข้อหา”พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและพาอาวุธ (มีดพร้า) ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร” ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. และ สืบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้สืบสวนจนทราบ ว่า นายปฏิพลฯ ได้หนีไปกบดานที่ บริเวณเกาะจิก ม.1 ตำบลบางชัน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี กว่า 10 ปี จึงได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปตรวจสอบและเฝ้าสะกดรอยติดตาม จนทราบว่า นายปฏิพลฯ ได้มาทำงานเป็นชาวประมง หากุ้งหาปลากลางทะเล จึงได้ดักรอที่บริเวณท่าเทียบเรือเกาะจิก กระทั่งนายปฏิพลฯ เดินทางกลับจากหากุ้งหาปลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัว พร้อมทำการจับกุม โดย นายปฏิพลฯ ให้การว่าตนเองใช้อาวุธมืดพร้าฟันบริเวณศีรษะ ของผู้เสียหายจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ดำเนินการจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพ “การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด