นนทบุรี วงจรปิด ไรเดอร์หนุ่มร้องสื่อ ถูกป้าวัย 64 ปี ขี่จยย.ปาดหน้าชนสนั่นกระเด็นเหินฟ้า กระดูกไหปลาร้าหัก ปัดรับผิดชอบ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายกฤษฎา บุญกัลยา อายุ 30 ปี อาชีพไรเดอร์ส่งอาหาร นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดมาขอความเป็นธรรมหลังประสบอุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์คู่กรณีขี่ปาดหน้า จนเกิดการชนอย่างรุนแรง ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกไหปลาร้าหัก และต้องหยุดงานหลายวัน ส่งผลกระทบต่อรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ ขณะที่คู่กรณียังไม่แสดงความรับผิดชอบใด ๆ ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 2 พ.ค.68 เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะนายกฤษฎา ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 สีเทา-น้ำเงิน ทะเบียน 7ขค 2690 กรุงเทพมหานคร มาจากบริเวณแยกพงษ์เพชร มุ่งหน้าแยกประชานุกูล เพื่อไปรับออเดอร์ที่บริเวณเทศบาลรังสรรค์เหนือ ระหว่างทางได้เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีขาว-น้ำตาล ทะเบียน 4กร 5936 กรุงเทพมหานคร ขี่แซงและปาดหน้ากะทันหัน จนเกิดการชนประสานงาอย่างจัง เป็นเหตุให้ร่างของนายกฤษฎากระเด็นลอยขึ้นจากพื้นถนน ได้รับบาดเจ็บสาหัส นายกฤษฎาเปิดเผยว่า เกิดเหตุตนได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า แพทย์วินิจฉัยว่า กระดูกไหปลาร้าหัก ต้องพักรักษาตัวโดยห้ามทำงานเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ไม่สามารถประกอบอาชีพรับจ้างส่งอาหารได้ตามปกติ และไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว โดยเฉพาะภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ จากนั้นวันเดียวกันก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ โดยมี ร.ต.ท. อลงกรณ์ อินเรือง รองสารวัตร (สอบสวน) เป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และภายหลังทราบชื่อคู่กรณีคือ นางศิริวรรณ อายุ 64 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย” แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใด ๆ จากคู่กรณี วันเกิดเหตุตนขับรถมาทางตรง ไม่ได้ขับเร็ว แต่จู่ ๆ เขาก็ขี่ปาดหน้าจนชนกัน ทำให้ตนกระเด็นลอยเหินฟ้า แล้วก็ต้องเข้าโรงพยาบาล หมอบอกว่าไหปลาร้าแตก ห้ามทำงาน ตนต้องหยุดงานไปสองอาทิตย์ ไม่มีรายได้ แถมต้องเลี้ยงดูภรรยาที่กำลังท้อง ตอนนี้แทบไม่มีเงินติดตัว ต้องไปยืมเงินคนอื่นมาใช้ มีความคิดถึงขั้นอยากจบชีวิตอีกด้วย ตนได้พยายามติดต่อพูดคุยกับนางศิริวรรณ คู่กรณี โดยเสนอให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท และตนจะไม่ติดใจเอาความ แต่ฝ่ายคู่กรณีกลับแสดงท่าทีไม่รับผิดชอบ อ้างว่าจะขอปรึกษาครอบครัวก่อน และยังกล่าวหาว่าตนเป็นฝ่ายขับรถเร็วเอง ตอนนี้ตนเครียดมาก รถก็พัง ขับไม่ได้ นำไปประเมินราคาซ่อมที่ศูนย์ฯ ก็โดนตีราคาค่าซ่อมกว่า 16,000 บาท ตอนนี้ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร วอนคู่กรณีหรือครอบครัว หากเห็นใจคนหาเช้ากินค่ำแบบตน ก็ขอให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะตำรวจเรียกไปพูดคุยก็แล้ว เขาก็ยังไม่ยอมรับผิดอะไรเลย