DSI จ่อส่งสำนวน “คดีนอมินี” บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ให้อัยการไม่เกิน 20 วัน
โฆษกดีเอสไอ เผยความคืบหน้าคดีตึก สตง. ถล่ม เตรียมสรุปสำนวน “คดีนอมินี” ไชน่า เรลเวย์ฯ ส่งอัยการ ภายใน 20 วัน ส่วน “บิงลิง วู” อยู่ระหว่างการขยายผล
วันนี้ (6 พ.ค.) เวลา 13.00 น. ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เชิญประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 กรณี ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีทุกประเด็นที่มอบหมายให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการตลอดสัปดาห์ อาทิ คำให้การของพยานวิศวกรซึ่งถูกแอบอ้างชื่อและถูกปลอมลายเซ็นควบคุมงานก่อสร้างตึก สตง. / การลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานบริเวณไซต์งานก่อสร้างตึก สตง. / การพิจารณาพฤติการณ์ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 โดยเฉพาะเรื่องการประมูลงานโครงการ และการควบคุมงานก่อสร้างโดยกิจการร่วมค้า PKW เป็นต้น
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยหลังการประชุม ว่า ในที่ประชุมมีวาระสำคัญ 3 เรื่อง คือ 1.การติดตามความคืบหน้าคดีนอมินี ขณะนี้รอเอกสารการชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหา ทั้ง 4 ราย คาดว่าจะสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายในไม่เกิน 20 วัน 2.อธิบดีดีเอสไอได้มีการสอบถามประเด็นในคดีฮั้วประมูลว่ามีความผิดหรือไม่ ในประเด็นนี้มีหลักฐานอยู่ 2 ส่วน คือ พนักงานสอบสวนดีเอสไอรวบรวมเอง และ คำกล่าวโทษจากพยานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการเสนอราคา โดยเฉพาะประเด็นการควบคุมงานที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอธิบดีได้มีการกำชับ ให้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ปรากฏว่ามีมูลข้อเท็จจริงมากน้อยเพียงใด และ 3.ติดตามความคืบหน้าคดีที่เกี่ยวเนื่อง คือ คดีภาษีอากร หลังจากกรมสรรพากรได้มากล่าวโทษร้องทุกข์ บริษัท ซินเคอหยวน สตีล จำกัด ว่ามีความคืบหน้าไปอย่างไร ล่าสุดได้รับการชี้แจงว่าในเอกสารที่มีการนำมาเครดิตภาษี ได้มีการตรวจสอบไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่าบริษัทดังกล่าวมีตัวตนจริงหรือไม่ จึงมาให้ถ้อยคำเป็นพยานในคดีต่อไป
พ.ต.ต.วรณัน เผยว่า ในส่วนคดีนอมินี กรณีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบสอบและขยายผลเพิ่มเติม โดยจะมีการส่งสำนวนให้อัยการ ภายในกรอบระยะเวลา 20 วัน สำหรับ นายบินลิง วู ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด นั้นอยู่ระหว่างตรวจสอบและยังไม่อยู่ในสถานะพยาน แต่ว่าเป็นประเด็นที่กำลังขยายผลต่อเนื่อง ทั้งนี้ สถานะนายบิลลิง วู ยังถือว่าเป็นนักธุรกิจชาวจีน
พ.ต.ต.วรณัน เผยต่อว่า ในส่วนกรณีนายกวิศวกรรมโครงสร้างได้แนะให้กระจายเก็บปูนทุกส่วน แม้แต่เศษลูกปูนที่มาจากการรื้อถอนในพื้นที่ตึก สตง. ถล่มนั้นพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ 3 หน่วยงาน คือ กรมโยธาธิการและผังเมือง ที่ดูในเรื่องของคอนกรีต , สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจสอบเรื่องของเหล็กเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือไม่ และ กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานและส่งพนักงานสอบสวนท้องที่ สน.บางซื่อ เพื่อตรวจเพื่อตรวจและทำเป็นรายงาน สามารถนำไปใช้ร่วมกันได้ในสำนวนคดี
“ส่วนกรณีการตรวจสอบลายเซ็นปลอมของวิศวกร ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งตรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อดูว่าวิศวกรเป็นผู้เสียหายโดยตรงจริงหรือไม่ เพื่อจะนำไปใช้แจ้งความอีกส่วนหนึ่ง แต่ยังมีอีกส่วนก็จะนำมาใช้ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของดีเอสไอ ทั้งนี้ ในเรื่องการที่วิศวกรถูกปลอมเอกสารจะเป็นความผิดในฐานอาญาอื่น และการสอบสวนวิศวกร คาดว่าจะเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่บอกว่าไม่ใช่ลายเซ็นตัวเอง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการเรียกบริษัทที่ร่วมยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้าง สตง. แบบ E-bidding แต่ยังสัญญาอื่น งานออกแบบและคุมงานจะเป็นการคัดเลือก อยู่ระหว่างพิจารณา” พ.ต.ต.วรณัน กล่าว